ยายสุดช้ำ!! โดนโกงที่ดินสูญ 6 แสน พ้อยอมขายตัวเป็นทาสไปใช้หนี้

สังคม

ยายสุดช้ำ!! โดนโกงที่ดินสูญ 6 แสน พ้อยอมขายตัวเป็นทาสไปใช้หนี้

โดย pichaya_s

26 พ.ย. 2564

786 views

ยายวัย 68 ยอมขายตัวเป็นทาสใช้หนี้ หลังโดนโกงที่ดินราคา 6 แสนบาท สุดท้ายสุดช้ำ สามีที่เคยใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน 50 ปี ก็หนีหาย ลูกชายคนเล็กประสบอุบัติเหตุ มือขวาใช้งานไม่ปรกติเครียดจนเป็นโรคซึมเศร้า


ผู้สื่อข่าวที่จังหวัดยะลา รายงานว่า มีผู้แจ้งเรื่องราวความน่าสงสารของคุณยายวัย 68 ปี ยอมขายตัวเป็นทาสเพื่อใช้หนี้ หลังสิ้นเนื้อประดาตัวเพราะโดนโกงที่ดินราคา 6 แสนบาท ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อและเดินทางไปพบคุณยายแวเย๊าะ กาเดาะ อายุ 68 ปี ซึ่งอาศัยบ้านเช่าเลขที่ 91/69 ซอย มิตรสัมพันธ์ ในเขตเทศบาลตำบลสะเตงนอก อ.เมืองยะลา จ.ยะลา


โดยคุณยายได้นำผู้สื่อข่าว ลงพื้นที่เพื่อดูที่ดินที่ถูกโกงไปขายต่อให้บุคคลที่ 3 บริเวณปากซอย จี-เฮ้าส์ เขตตำบลสะเตงนอก อ.เมืองยะลา จ.ยะลา จำนวน 4 แปลง มูลค่า 6 แสนบาท ด้วยสายตาเศร้าเสียใจ โดยที่ดินทั้ง 4 แปลง มีนายมะยูตี อาแว โต๊ะอิหม่าม มัสยิดโล๊ะกือบอ เล่าเรื่องราวยืนยันว่า เดิมทีที่ดินทั้งหมดเป็นของพ่อตา ก่อนขายต่อให้ญาติที่เป็นอุสตาส หลังจากนั้นได้แบ่งที่ดินฝืนใหญ่เป็น 8 แปลง โดยสามีของคุณยายแวเก๊าได้ซื้อเอาไว้จริง เป็นจำนวน 4 แปลง


ผู้สื่อข่าวที่จังหวัดยะลา รายงานว่า มีผู้แจ้งเรื่องราวความน่าสงสารของคุณยายวัย 68 ปี ยอมขายตัวเป็นทาสเพื่อใช้หนี้ หลังสิ้นเนื้อประดาตัวเพราะโดนโกงที่ดินราคา 6 แสนบาท ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อและเดินทางไปพบคุณยายแวเย๊าะ กาเดาะ อายุ 68 ปี


คุณยายแวเย๊าะ กาเดาะ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตอนนั้นเมาะคิดอยากจะมีบ้านหลังเล็ก ๆ ไว้อาศัยอยู่ในช่วงบั้นปลายชีวิต จึงคิดจะเอาที่ดินไปค้ำเพื่อกู้ธนาคารแต่ติดปัญหาตรงที่อายุเกิน 60 ปี ไม่สามารถทำธุรกรรมได้ จึงได้ขอช่วยลูกของเพื่อนจัดการหานายหน้าที่ดินให้ จนได้นายหน้าเป็นผู้หญิง บอกว่าสามารถช่วยเหลือโดยอ้างว่ารู้จักกับผู้จัดการธนาคารแห่งหนึ่ง


ต่อมาไม่นานมีการโทรมาหลอกล่อสามีว่าตอนนี้มีเงินกู้ก้อนหนึ่งของพนักงานธนาคารที่สละสิทธิ์ยังไม่พร้อม และยังบอกว่า เมาะโชคดีมากให้รีบมาจัดการ แต่เมาะต้องเซ็นโอนที่ดินทั้ง 4 แปลงให้นายหน้าหญิงคนดังกล่าว เพื่อจะได้จัดการได้ง่ายขึ้น ซึ่งเมาะเองได้ทำเรื่องขออนุญาตเทศบาล เพื่อสร้างบ้านเรียบร้อยหมดแล้ว เมาะเชื่อใจ จึงยอมเซ็นชื่อโอนที่ดินให้นายหน้าและให้สามีเอาโฉนดตามมาที่หลังในวันเดียวกัน


หลังจากนั้น 3-4 เดือนต่อมาเมาะได้ทวงถาม แต่นายหน้าคนดักล่าวบอกว่ากำลังดำเนินการใกล้จะได้แล้ว เมาะก็ทวงถามไปอีกหลายครั้งแต่ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยง เลยคิดว่าโดนหลอกแน่แล้ว จึงได้ไปปรึกษาที่อัยการและส่งต่อคดีให้ตำรวจยื่นฟ้องนายหน้าและขึ้นศาลในคดีฉ้อโกง โดยจำเลย(นายหน้าคนดังกล่าว) ก็ได้รับสารภาพ ยอมจ่าย 1 แสนบาท และทำการประกันตัว เพื่อมาอุทธรณ์ต่อศาล ระหว่างนั้นจำเลยบอกว่าจะให้เพิ่มอีก 1 แสนบาท เพื่อไม่ให้เอาเรื่อง แต่สุดท้ายก็ไม่ให้ จนมาถึงวันที่ศาลอุทธรณ์ภาค 9 ตัดสิน จำเลยกับทนายก็เอากุญแจรถยนต์มาให้แต่เมาะไม่เอา สุดท้ายศาลอุทธรณ์ ตัดสินจำคุกจำเลย 2 ปี 6 เดือน ลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 1 ปี 3 เดือน


เมาะบอกว่า ตอนนี้อย่าว่าเงินหมื่น เงินพันก็หายากมาก ชีวิตตอนนี้ลำบากมาก(หยุดร้องไห้) ตอนนี้สามีที่อยู่กันมา 50 ปีก็หนีหายไปแล้ว ประทังชีวิตจากการใช้จ่ายจากโครงการคนละครึ่งของลูกชายคนรองกับคนเล็ก และก็เงินคนชราเดือนละ 600 บาท


เมาะ เล่าว่า เมาะเองมีลูกสามคน คนโตออกไปมีครอบครัว คนที่สองช่วยเมาะค้าขายในตลาดจนกระทั้งมีโควิดก็ไม่ได้ค้าขายอีก ส่วนลูกคนเล็ก จบวิศวะมาทำงานที่ภูเก็ตก็ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถทัวร์จนมือขวาหัก ไม่สามารถใช้งานได้อย่างปรกติจนต้องออกจากงานและกลับมาอยู่บ้าน คนเล็กเขาเครียดเรื่องแม่ เรื่องที่พ่อทำ และตัวเขาเองที่เป็นเหมือนความหวังที่จะดูแลแม่แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ แต่ยังต้องมาเป็นภาระให้แม่อีก ตอนนี้ถ้ามีใครจะเอาเมาะไปเป็นทาสก็ยอม เมาะไม่อายคน อยากได้จ่ายหนี้ และสร้างบ้านเล็กๆให้ลูกชายสองคนอยู่แค่นั้น


ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ประสานเรื่องดังกล่าวไปยังหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลช่วยเหลือ จนนายศรัณย์พล ลีฬหาวงศ์ รองนายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลเมืองสะเตงนอก จ.ยะลา ได้รับมอบหมายจาก นายเสรี เรืองกาญจน์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสะเตงนอก เข้าดูแลช่วยเหลือในส่วนของอุปโภคบริโภคของใช้ในครัวเรือนเบื้องต้น และติดตามสอบถามเรื่องการติดตามสืบทรัพย์ต่อไป ในส่วนปัญหาทางสังคมของเมาะและลูกชายคนเล็ก นางสุภาพร วุฒิศาสตร์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดยะลา ได้เข้าเยี่ยมและนำนักจิตวิทยาเข้าพูดคุยกับสองแม่ลูก


นางสุภาพร วุฒิศาสตร์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดยะลากล่าวว่า เคสนี้เป็นเคสที่ประสบปัญหาทางสังคม ลูกชายประสบอุบัติเหตุ ออกจากงาน แม่ก็เป็นผู้สูงอายุและไม่มีงานทำ ต้องการให้ช่วยเหลือในเรื่องการประกอบอาชีพและเงินทุน แต่ที่ต้องดูลึกไปกว่านั้นก็คือเรื่องลูกชาย ซึ่งมีอาการท้อแท้ทางด้านจิตใจ วันนี้เราได้พานักจิตวิทยาเข้ามาพูดคุย ช่วยเหลือทางด้านจิตใจเขา เพื่อให้เขาได้ลุกขึ้นยืนและต่อสู้ เพื่อจะได้ดำเนินการในการช่วยเหลือ โดยเมื่อเช้าได้เข้าพบ นายภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เพื่อรายงานเรื่องดังกล่าวให้ทราบ โดยทางท่านผู้ว่าได้เน้นย้ำให้ช่วยเหลือ โดยเฉพาะลูกชายเมาะที่กำลังท้อแท้ทางด้านจิตใจอย่างหนัก


ในส่วนของคดีความ หลังจากศาลตัดสินจำคุกจำเลยไปแล้วนั้น ศาลกรุณาแนะนำให้หาทนายไปฟ้อง แต่เมาะไม่มีเงินจะจ้างทนายศาลท่านจึงแนะนำให้เขียนหนังสือไปยังศูนย์ยุติธรรมจังหวัดยะลาช่วยจัดหาทนายให้โดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่าย โดย นายธีรยุทธ เบญจเดชา ทนายความ ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ทางศูนย์ยุติธรรมจังหวัดยะลาได้มอบหมายให้ผมดูแลคดีนี้ให้ช่วยเหลือ ที่จะไปยึดทรัพย์สินของจำเลยมีอะไรบ้าง จากนั้นผมจะได้รับทราบดูแลเอกสารทั้งหมด และสืบหาจากพักพวกว่าจำเลยมีอะไรบ้าง ปรากฏว่าจำเลยมีคดีเยอะ ไม่ใช่รายนี้รายเดียว และทรัพย์สินถูกจำนำจำนอง ไม่มีอะไรเลย ก็เลยอธิบายผู้เสียหายว่าพอจะมีพักพวกที่จะสืบหาทรัพย์สินของจำเลย เพื่อทางผมจะได้ดำเนินการช่วยเหลือต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News