ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดเหตุจลาจลรุนแรงขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่คืนวันศุกร์และคืนวันเสาร์ ในหลายเมืองของเนเธอร์แลนด์ โดยเฉพาะที่เมืองเฮก ผู้ประท้วงไม่ต้องการมาตรการล็อกดาวน์ที่รัฐเพิ่งจะประกาศใช้ครั้งใหม่เมื่อไม่นานมานี้

โดยผู้ชุมนุมใช้หินและพลุโจมตีตำรวจ ขณะที่ตำรวจก็ต้องเข้าปราบปรามผู้ประท้วงด้วยความรุนแรง โดยจากภาพ จะเห็นว่ามีการฉีดน้ำเข้าใส่ผู้ประท้วงด้วย

นอกจากนั้น ผู้ประท้วงก็ยังเผากองรถจักรยานไฟลุกท่วม โดยจากการปะทะกันครั้งนี้ มีตำรวจได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 5 นาย และมีผู้ประท้วงถูกจับกุมอย่างน้อย 7 คน

เหตุการณ์ที่เมืองเฮกนั้น เกิดขึ้นหลังจากที่ได้เกิดเหตุความรุนแรงขึ้นในเมืองรอตเตอร์ดัม ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 รายหลังถูกตำรวจยิงใส่ และมีผู้ต้องสงสัยถูกจับกุมทั้งหมด 51 คน

ส่วนที่เมืองเบรดา ทางภาคใต้ของประเทศ ใกล้กับชายแดนเบลเยียม ผู้ประท้วงหลายพันคนเดินขบวนไปทั่วเมือง ชูป้ายข้อความว่า "ไม่เอาล็อกดาวน์" เช่นกัน

ทั้งนี้ เนเธอร์แลนด์กลายเป็นชาติแรกของยุโรปตะวันตก ที่กลับเข้าส่มาตรการล็อกดาวน์บางส่วนตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เนื่องจากมีตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มสูงขึ้น

โดยเมื่อวานนี้เนเธอร์แลนด์ มีตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นอีก 21,794 คน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 2,421,643 คน