วานนี้ (15 พ.ย.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ. หารือกับนายกสมาคมประกันวินาศภัย แก้ปัญหาการประกันภัยโควิด -19 แบบ เจอ จ่าย จบ หลังสมาคมฯ ยื่นหนังสือขอให้ทบทวนคำสั่งนายทะเบียน ยกเลิกเงื่อนไขการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขกรมธรรม์ เจอจ่ายจบ เพราะบริษัทประกันภัยประสบปัญหาสภาพคล่อง

โดยคปภ. ยืนยันกับทางสมาคมประกันวินาศภัย จะไม่ยกเลิกคำสั่ง คปภ. ที่ห้ามบริษัทประกันยกเลิกประกับโควิดแบบเจอจ่ายจบได้ ตามที่สมาคมประกันวินาศภัยขอมา เพราะเห็นว่าการยกเลิกคำสั่งจะกระทบกับผู้ทำประกันและธุรกิจประกันโดยรวมทั้งหมด

แต่ คปภ.มีมาตรการอื่นเพื่อช่วยเหลือบรรเทาบริษัทประกันที่มีปัญหาต่อเนื่อง และสามารถร้องขอเพิ่มเติมได้ คือ ให้บริษัทประกันฯเสนอทางเลือกอื่นให้ผู้เอาประกันได้ แต่จะต้องเป็นไปด้วยความสมัครใจของผู้เอาประกัน และต้องได้รับประโยชน์สูงสุดมากกว่ากรมธรรม์ฉบับเดิม

ขณะเดียวกันก็มีมาตรการช่วยเหลือบริษัทประกันในการเสริมสภาพคล่องและบรรเทาผลกระทบ เช่น การลดเงินส่งเข้ากองทุนประกันภัยฯ และหาแหล่งเงินทุนช่วยสภาพคล่องให้บริษัทประกันภัย ล่าสุดมีบริษัประกันภัยที่ยื่นเข้ารับการช่วยเหลือแล้ว 3 บริษัท จากทั้งสิ้น 16 บริษัทที่ขายกรมธรรม์เจอจ่ายจบ

ส่วนกรณีที่ บริษัท เดอะวันประกันภัย จำกัด (มหาชน) ส่ง sms ให้ผู้เอาประกันแจ้งเลือกตามเงื่อนไขที่บริษัทยื่นข้อเสนอ หากไม่แจ้งเลือกบริษัทจะเปลี่ยนความคุ้มครองในกรมธรรม์อัตโนมัติ จาก เจอจ่ายจบ เป็นคุ้มครองเฉพาะโคม่า ซึ่งผู้บริโภคมองว่ามัดมือชกนั้น

ล่าสุดได้กำชับไปยังบริษัทเดอะวันประกันภัย ถึงคำสั่งนายทะเบียนว่าไม่สามารถทำได้ หากผู้บริโภคมาร้องเรียนและพบว่าผิดจริง ถือเป็นฝ่าฝืนคำสั่งนายทะเบียน มีโทษปรับสูงสุด 300,000 บาท

ทั้งนี้สมาคมประกันวินาศภัยไทย ระบุว่า มียอดขอเคลมสินไหมเจอจ่ายจบแล้วกว่า 32,000 ล้านบาท จ่ายค่าสินไหมไปแล้ว 25,000 ล้านบาท และยังมีกรมธรรม์เจอ จ่าย จบ ที่ยังเหลือการคุ้มครอง 7 ล้านกรมธรรม์ จากทั้งหมด 10 ล้านกรมธรรม์

พร้อมยืนยันว่า ยังไม่พบความเสียหายเชิงระบบ แต่คปภ. จะขอให้บริษัทรายงานสถานะบริษัทเพื่อตรวจสอบสภาพคล่องป้องกันเกิดกรณีเดียวกับบริษัทเอเชียประกันภัย

ด้านนายสาระ ล่ำซำ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวว่า บริษัทประกันชีวิตทุกบริษัทได้ดำเนินธุรกิจด้วยการบริหารจัดการความเสี่ยงรอบด้าน ทั้งก่อนและหลังการรับประกันภัย และไม่มีเงื่อนไขให้บริษัทประกันชีวิตสามารถยกเลิกสัญญาระหว่างทางได้ ยกเว้นแต่มีหลักฐานชัดเจนว่าผู้เอาประกันภัยปกปิดข้อเท็จจริง ที่เป็นสาระสำคัญต่อการรับประกันภัย หรือ มีเจตนาทุจริตต่อบริษัท

ขณะเดียวกันธุรกิจประกันชีวิต มีความมั่นคงและมีระดับความเพียงพอของเงินกองทุนสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด และเพียงพอต่อการปฏิบัติตามภาระผูกพันของกรมธรรม์ประกันภัยทุกกรมธรรม์ที่ออกให้แก่ผู้เอาประกันภัย ดังนั้น ธุรกิจประกันชีวิตพร้อมที่จะดูแลและให้ความคุ้มครองแก่ผู้เอาประกันภัยจนกว่าจะครบกำหนดสัญญา

จึงขอให้ผู้เอาประกันภัยที่ทำประกันชีวิตในทุกแบบผลิตภัณฑ์ กับทุกบริษัทประกันชีวิต เชื่อมั่นว่าธุรกิจประกันชีวิตมีความมั่นคงและพร้อมยึดมั่นคำสัญญาที่ระบุไว้ภายใต้เงื่อนไขกรมธรรม์

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/FHY5Zw6SNyI