ชายอ้างตัวเป็นตำรวจยศ พันตำรวจโท ทำงานเป็นรองผู้กำกับอยู่ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 4 ทักแชทเฟซบุ๊กหลอกสาว จะขอหมั้นหมาย ก่อนจะหลอกไปมีอะไรด้วยแล้วถ่ายคลิปไว้แบล็คเมล์ขู่เอาเงิน ล่าสุดมีหญิงสาวตกเป็นเหยื่อเกือบ 10 ราย

หนึ่งในผู้เสียหาย เป็นผู้หญิง อายุ 45 ปี อยู่ที่จังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยกับทีมข่าวว่า เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ผู้ชายคนนี้ได้เพิ่มเพื่อนมาในเฟซบุ๊ก และทักมาคุย โดยอ้างตัวว่าเป็นตำรวจ ชื่อ จักรพันธ์ กัณฑราบ อายุ 49 ปี เป็นรองผู้กำกับอยู่ที่ภาค 4 จังหวัดขอนแก่น แล้วก็พยายามจีบเธอ ราว 1 เดือนก็บอกว่าจะขอแต่งงาน จะมาบ้านเพื่อคุยกับพ่อแม่เรื่องการสู่ขอ

และทุกวันจะส่งรูปถ่ายที่ใส่ชุดตำรวจมาให้ตลอด และโพสต์ลงในเฟซบุ๊กด้วยเหมือนว่าเป็นตำรวจจริงๆ และคุยกันผ่านวิดีโอคอลให้เห็นตลอด ใส่ชุดตำรวจอยู่ในรถบ้าง บอกว่ากำลังไปทำงาน แต่ไม่เคยถ่ายให้เห็นตอนอยู่ในที่ทำงานจริงๆ มีแต่รูปถ่ายด้านนอก อ้างว่าเป็นความลับของทางราชการ

ผู้เสียหาย ยอมรับว่า ตอนที่คุยกับชายคนนี้ก็ชอบเพราะเขาพูดจาดี เคยมาคุยกับแม่ว่าจะมาทำบ้านให้ใหม่ จะใช้หนี้ให้ จึงตกลงปลงใจคบหา จนวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา เขามาหาที่บ้าน มาขอหมั้นกับพ่อแม่ ตกลงจะหมั้นกันวันที่ 5 ตุลาคม ซึ่งตัวจริงก็หน้าตาตรงปกตามรูปที่คุยกันทุกอย่าง แต่ค่อนข้างเตี้ย สูงไม่ถึง 160 เซนติเมตร ก็แปลกใจนิดหน่อยว่าเป็นตำรวจทำไมตัวเตี้ย และวันนั้นก็มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน

วันรุ่งขึ้นอีกฝ่ายเดินทางกลับไป เธอจึงเปลี่ยนรูปโปรไฟล์เฟซบุ๊กเป็นรูปคู่ ปรากฎว่ามีผู้หญิงทักมาบอกว่าชายคนนี้เป็นตำรวจปลอม และเขาหลอกผู้หญิงไปทั่ว ตอนนี้มีผู้เสียหายเกือบ 10 ราย ซึ่งมีการรวมกลุ่มพูดคุยกันอยู่ และชื่อจริงๆ ไม่ได้ชื่อ จักรพันธ์ แต่ชื่อ ‘ชัยทอง’

จากนั้นก็ทักไปถามอีกฝ่าย ปรากฎว่าเขากลับส่งภาพคลิปอนาจารที่เขาถ่ายไว้มาแบล็คเมล์ พร้อมข่มขู่ว่าหากเอาเรื่องนี้ไปบอกคนอื่น จะเอาคลิปไปเผยแพร่ ซึ่งผู้เสียหายทุกคนโดนจะโดนขู่เรียกเงินเหมือนกันหมดตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท

ล่าสุด มีผู้เสียหายรายหนึ่งได้เข้าแจ้งความที่ สภ.บ้านหมอ จังหวัดสระบุรี แล้ว แต่เรื่องยังไม่คืบหน้า ขณะที่ผู้เสียหายอีกหลายคนก็ไม่กล้าเปิดเผย ไม่กล้าไปแจ้งความเพราะอาย แต่เธอต้องการเตือนภัย ไม่อยากให้ใครตกเป็นเหยื่ออีก เพราะสิ่งที่เจ็บใจที่สุดคือมาหลอกพ่อแม่เธอ

พันตำรวจเอก กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บอกว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบการแจ้งความที่ สภ.บ้านหมอ แต่จะตรวจสอบเพิ่มเติมในท้องที่อื่นๆ โดยผู้เสียหายทุกรายสามารถไปแจ้งความได้ที่สถานีตำรวจทั่วประเทศ

ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่จะปกปิดข้อมูลส่วนตัวให้อยู่แล้ว และเจ้าหน้าที่จะสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดว่าเข้าข่ายความผิดใดบ้าง อาจมีในเรื่องการข่มขู่กรรโชก การนำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และการนำเข้าภาพลามกอนาจาร พร้อมวอนผู้เสียหายเข้าแจ้งความ จะได้ติดตามจับได้