นายแพทย์วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.พรรคก้าวไกล เเถลงถึงข้อกังวล เเละข้อเสนอเเนะที่เกี่ยวกับเรื่องการเปิดประเทศ 1 พ.ย. นี้ ว่า 1) จากที่มีรายงานอัตราการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มอยู่ที่ ร้อยละ 40 ของประชากร นั้นเป็นตัวเลขจริงหรือไม่ นับจากอะไร สูตรไขว้ก็ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าผลจริง

จึงคาดคะเนว่าตัวเลขที่เเท้จริงอาจจะไม่ถึง 40% ที่มีภูมิคุ้มกันจริง ๆ เเละไม่มั่นในรัฐบาลว่าใช้ตัวชี้วัดอะไร ที่จะทำให้ นักลงทุน ประชาชน เเละ SME มั่นใจได้ว่าการเปิดประเทศจะได้ผล

สำหรับเเผนการเปิดรับชาวต่างชาติตามเกณฑ์ที่ ศบค. กำหนดนั้น เช่น การเดินทางเข้าพื้นที่ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ที่ลดการกักตัวจาก 14 วันเป็น 7 วัน การกระทำเช่นนี้จะยิ่งทำให้เกิดความเสี่ยง เเละเข้าใจว่าการลงทุนของรัฐบาลมีความเสี่ยง เเต่ความเสี่ยงครั้งนี้ คือ ชีวิตของประชาชนไทย

ส.ส.วาโย ระบุว่า ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ มีผลประกอบการไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะไม่ถึงเป้าหมายตามที่วางไว้หนึ่งเเสนราย ตนเองเห็นด้วยกับการมีเป้าหมายที่จะเปิดประเทศให้ได้ เเต่สถานการณ์ตอนนี้ หากใช้เเผนการเปิดประเทศตามที่ ศบค.เเถลง นั้นมีความน่ากังวลอย่างมากต่อชีวิตประชาชน

สิ่งที่รัฐบาลต้องการเปิด มันเป็นไปเพื่อการปกป้องพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ลั่นวาจาออกไปเเล้ววว่า ต้องการเปิดประเทศภายใน 120 วัน

พร้อมกันนี้ยังเสนอว่า ต้องมีการเร่งฉีดวัคซีนวันละ 1 ล้านโดส เพื่อให้ยอดถึง 70-80% ขึ้นไป ภายในสิ้นเดือน พ.ย. เเละต้องยกเลิกหลักความคิดรัฐราชการรวมศูนย์ ทำงานเเค่ในเวลาราชการได้เเล้ว ต้องมีการจัดเตรียมเเผนรับมือเมื่อเปิดประเทศเเล้วอย่างครอบคลุมทั้งในภาครัฐเเละเอกชน

เเละประการสำคัญ นายกฯ ต้องเเก้ไขการสื่อสาร เปลี่ยนเป็นเเสดงความความหนักเเน่นในการเปิด ไม่ใช่บอกว่าถ้าเปิดเเล้วระบาดค่อยปิด เพราะอาจทำให้ผู้ประกอบการเเละนักลงทุนไม่กล้าเข้ามาลงทุน

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/afKYA2QC7wU