วันนี้ (26 ตุลาคม 2564) ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา พลตำรวจโท สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 3 ได้แถลงข่าวการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงผู้เสียหายหลายราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 2.4 ล้านบาท

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา หญิงสาว อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นผู้เสียหายรายหนึ่ง ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ให้ดำเนินคดีกับคนร้าย ซึ่งโทรศัพท์มาหลอกลวงผู้เสียหายจนหลงเชื่อ และโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ หมายเลขบัญชี 694-2-09257-5 ชื่อบัญชี นางสาวสมศรี บุญเลี้ยง เป็นจำนวนเงิน 218,470 บาท

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนพบว่า คดีดังกล่าวเป็นการกระทำในลักษณะของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยกลุ่มคนร้ายจะโทรศัพท์ไปหาผู้เสียหาย และอ้างตนเองว่า เป็นเจ้าหน้าที่ขนส่งของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง สาขาเชียงใหม่ แล้วบอกกับผู้เสียหายว่า มีสินค้าจำพวกพาสปอร์ต บัตรเอทีเอ็ม และเสื้อผ้า ที่จะส่งไปยังประเทศจีนติดค้างอยู่ที่ด่านศุลกากร ไม่สามารถขนส่งไปยังปลายทางได้

แต่ผู้เสียหายได้แจ้งกลับไปว่าไม่เคยมีการส่งสินค้าดังกล่าว แต่คนร้ายได้สร้างความน่าเชื่อถือด้วยการแนะนำว่าสามารถโอนสายเพื่อติดต่อแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจยศร้อยตำรวจเอก ซึ่งเป็นร้อยเวรของ สภ.เชียงใหม่ จากนั้นก็มีการแนะนำให้แอดไลน์ของ สภ.เมืองเชียงใหม่ และมีการพูดคุยกันผ่านไลน์ ซึ่งผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นไลน์ของ สภ.เมืองเชียงใหม่จริง ๆ

จากนั้นกลุ่มคนร้ายได้สอบถามข้อมูลส่วนตัวของผู้เสียหาย และแจ้งว่าผู้เสียหายมีส่วนพัวพันกับคดีการฟอกเงิน ซึ่งถ้าไม่อยากมีปัญหา จะให้ ปปง.ทำการตรวจสอบบัญชีของผู้เสียหาย จากนั้นคนร้ายจึงขอให้ผู้เสียหายแจ้งข้อมูลบัญชีทั้งหมด และยอดเงินในบัญชี โดยมีการกล่าวอ้างว่าเป็นการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และบอกว่าจะส่งบัญชีของผู้เสียหายให้ ปปง. ตรวจสอบเรื่องการฟอกเงิน

จากนั้นคนร้ายให้ผู้เสียหายโอนเงินทุกบัญชีที่ผู้เสียหายมี ไปยังธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชี 694-2-09257-5 ชื่อ นางสาวสมศรี บุญเลี้ยง เพื่อทำการตรวจสอบ โดยผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริง และเพื่อเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ จึงได้ทำการโอนเงินไปยังบัญชีดังกล่าว และเมื่อโอนเงินแล้วเสร็จ ผู้เสียหายก็ไม่สามารถติดต่อกับกลุ่มคนร้ายที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ได้

ผู้เสียหายจึงรู้ตัวว่าถูกหลอก ซึ่งนอกจากหญิงสาวผู้เสียหายรายนี้แล้ว ยังมีผู้เสียหายที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งนี้หลอกลวงอีกหลายคนในหลายพื้นที่ เช่น กรุงเทพฯ ชลบุรี และเชียงใหม่ รวมมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นกว่า 2.4 ล้านบาท

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับกลุ่มคนร้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จำนวน 5 ราย เป็นคนไทย 4 ราย และชาวกัมพูชา 1 ราย ซึ่งขณะนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 4 ราย ได้แก่ นางสมศรี บุญเลี้ยง อายุ 61 ปี ชาวจังหวัดปราจีนบุรี (รับจ้างเปิดบัญชี) นายคงเดช งามขำ อายุ 22 ปี ชาวจังหวัดชลบุรี (รับจ้างเปิดบัญชี) นางพรพมล สุขสมจิตต์ อายุ 41 ปี ชาวกรุงเทพฯ (นายหน้าจัดหาคนเปิดบัญชี) และนางสาวเสาวลักษณ์ หล่อทอง อายุ 26 ปี ชาวจังหวัดสระแก้ว (คนจัดส่งบัญชีไปให้เครือข่ายที่ประเทศกัมพูชา)

ส่วนผู้ต้องหาชาวกัมพูชาอีก 1 ราย ขณะนี้ยังหลบหนีอยู่ โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง