พ่อเด็ก 3 ขวบ ปฏิเสธเสียงแข็ง ไม่ได้ทำร้ายลูก ด้านตำรวจแจ้งข้อหาทั้งคู่

อาชญากรรม

พ่อเด็ก 3 ขวบ ปฏิเสธเสียงแข็ง ไม่ได้ทำร้ายลูก ด้านตำรวจแจ้งข้อหาทั้งคู่

โดย sujira_s

26 ต.ค. 2564

72 views

ความคืบหน้าคดีพ่อแม่ทำร้ายลูกสาววัย 3 ขวบ หลังจากตำรวจตามรวบตัวได้เมื่อวานนี้ สอบปากคำพ่อยังปฏิเสธเสียงแข็งไม่ได้ทำร้าย แต่แม่รับสารภาพพ่อเป็นคนทำ ตำรวจแจ้งข้อหาทั้งคู่


จากกรณีที่ญาติมีการร้องขอความช่วยเหลือเด็กหญิงอายุ 3 ขวบ ถูกทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส โดยแพทย์ผู้รักษาประเมินอาการเบื้องต้นว่า เยื่อหุ้มในสมองอักเสบ ตามร่างกายมีแต่รอยแผล ถูกบุหรี่จี้ตามตัว


ขณะที่ต่อมามีภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นว่า มีชายหญิงคู่หนึ่งนำตัวเด็กมาส่งที่โรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช ซึ่งตอนนั้นเด็กอาการแย่แล้ว หมดสติ โดยคนเป็นแม่ทำหน้าที่อุ้มลูก ส่วนสามี ใส่เสื้อสีดำกางเกงขาสั้น เดินตามหลัง ก่อนจะส่งเด็กให้กับพยาบาล อ้างว่าเด็กได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็ฯฝีมือของตากับยาย จากนั้นคนทั้งคู่ก็หลบหายไป


เมื่อวานนี้ (25 ต.ค.64) ตำรวจ สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้ตามไปรวบตัวนายเมธี อายุ 36 ปี และนางสาวอารีรัตน์ อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นพ่อและแม่แท้ๆ ของเด็กหญิงอายุ 3 ขวบที่ถูกทำร้ายได้แล้ว ที่บ้านเช่าหลังหนึ่งในตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี หลังสามารถจับพิกัดสัญญาณโทรศัพท์ของนายเมธี ได้


เมื่อชุดสืบสวนไปถึง พบรถมอเตอร์ไซค์ของนายเมธี จอดอยู่หน้าบ้านเช่า จึงบุกเข้าไปจับกุมทันที โดยขณะจับกุมทั้ง 2 คน ยังทิ้งยาเสพติดลงในชักโครก และจากการตรวจปัสสาวะก็พบสารเสพติดในร่างกายด้วย ก่อนจะควบคุมตัวไปสอบปากคำที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี


ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้เชิญตัวน้องฟ้าใส เข้าสอบปากคำเพิ่มเติม โดยมีทีมสหวิชาชีพร่วมรับฟัง เบื้องต้นน้องฟ้าใส ยอมรับขณะเกิดเหตุ ถูกผู้เป็นพ่อต่อย จากนั้นก็ถูกแม่หยิกตามร่างกาย เพื่อจะห้ามไม่ให้ร้องไห้


โดยหลังสอบปากคำนานกว่า 7 ชั่วโมง ทั้งพ่อและแม่เด็ก ยังให้การขัดแย้งกัน นายเมธี ยังปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้เป็นคนทำร้ายลูก โดยบอกว่าก่อนเกิดเหตุตนเองได้ทะเลาะกับภรรยา และภรรยาก็หนีออกจากบ้านไปประมาณ 1 สัปดาห์ จู่ๆ คืนวันเกิดเหตุ ภรรยาอุ้มลูกสาวและลูกชายคนโตมาเคาะประตูเรียก ก่อนจะเห็นสภาพลูกสาวถูกทำร้ายร่างกาย จึงรีบพาไปโรงพยาบาล


ส่วนนางสาวอารีรัตน์ ยอมรับสารภาพทั้งน้ำตาว่า คนที่ลงมือก็คือสามี และยังยอมรับว่ามีเรื่องทะเลาะกับสามีมาก่อนหน้านี้ ตนเองก็เคยถูกสามีทำร้ายร่างกาย พร้อมระบุว่าสาเหตุที่สามีลงมือทำร้ายลูก เพื่อต้องการจะกดดันตนเอง ในวันเกิดเหตุได้พยายามห้ามไม่ให้สามีทำร้ายลูกแล้วแต่ไม่เป็นผล ยอมรับว่าเสียใจที่เห็นลูกต้องบาดเจ็บต่อหน้าต่อตา และตนเองเป็นคนอ้อนวอนให้พาลูกไปส่งโรงพยาบาล ส่วนที่ไปอ้างกับทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลว่า ตายายเป็นคนทำร้ายร่างกายลูก ก็ยอมรับว่าทำไปเพื่อปกปิดความผิดของสามี เพราะไม่มีทางเลือก ส่วนเรื่องคดีความยินดีรับโทษตามกฎหมาย


สำหรับการดูแล น้องฟ้าใส 3 ขวบ และน้องแม็กอายุ 7 ขวบ พี่ชาย ทางจังหวัดสุพรรณบุรี จะให้อยู่ในความดูแลของ ตาและยาย แทนการอยู่ในความดูแลของพ่อแม่ ซึ่งเมื่อคืนนี้ทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านของตายาย พบว่าเด็กทั้ง 2 มาอยู่กับตายายแล้ว เมื่อสอบถามน้องฟ้าใส เจ้าตัวบอกว่าพ่อเป็นคนตี


นางสาวส้ม ยายของเด็ก บอกว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าลูกสาวลูกเขยจะทำร้ายลูกสาวรุนแรงขนาดนี้ จากการสอบถามน้องฟ้าใส บอกว่าพ่อเป็นคนตี ตีบ่อยด้วย หลังเกิดเหตุยังไม่ได้พบกัน หากเจอหน้าตนอยากจะถามว่าตีลูกทำไม ยืนยันจะไม่ยกโทษให้ จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ส่วนน้องฟ้าใส ตนกับตาจะขอเลี้ยงด้วยตัวเองถึงแม้จะมีรายได้เพียงเดือนละ 4,000 บาทก็ตาม ก็คงต้องเลี้ยงหลานไปตามยถากรรม


ด้านนายมานิตย์ ตาของเด็ก บอกว่า ตนมีลูกสาว 2 คน นางสาวอารีรัตน์ เป็นลูกคนโต หลังจากอยู่กินกับลูกเขยคนนี้ก็ไม่เคยทำความดีให้พ่อแม่ชื่นใจสักครั้งเดียว มีแต่สร้างปัญหา ขโมยเงิน ขโมยพระเครื่องเลี่ยมทองไปขายเอาเงินไปซื้อยาเสพติดมาเสพ พอเงินหมดก็มาขโมยใหม่ เท่านั้นยังไม่พอยังแอบอ้างชื่อพ่อแม่ไปกู้ยืมเงินคนอื่นด้วย ใช้จ่ายเงินทำตัวเป็นเศรษฐีจนตนและภรรยาเอือมระอา ขอตัดขาดจากการเป็นลูกเป็นพ่อแม่กัน ไม่เอาแล้ว


ส่วนนางสาวนุช น้าของน้องฟ้าใส เปิดเผยว่า รู้สึกสะเทือนใจ ที่หลานสาวซึ่งตนร่วมกับพ่อแม่ ช่วยกันเลี้ยงมากลับมาถูกพ่อแท้ๆ ทำร้ายได้รับบาดเจ็บขนาดนี้ เชื่อว่าสาเหตุเกิดจากฤทธิ์ยาเสพติด เมื่อก่อนพี่สาวไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเสพติด แต่หลังจากที่พี่เขยออกจากคุกมา พี่สาวบอกว่าถูกพี่เขยบังคับให้เสพยาถ้าไม่เสพก็จะถูกทำร้าย


ความคืบหน้าวันนี้ ร้อยตำรวจเอกประยุทธ นุชนาถ ร้อยเวร สภ.เมืองสุพรรณบุรี เผยว่า แม้นายเมธี พ่อเด็ก ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ทำร้ายลูก แต่ทางเจ้าหน้าที่มีพยานหลักบนและมั่นใจว่า จะดำเนินคดีกับนายเมธีได้ ขอรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมให้แน่นหนาก่อน จึงจะส่งนายเมธี ฝากขังในวันพรุ่งนี้ แต่หากวันนี้สอบปากคำพ่อเด็กเพิ่มเติมแล้วยอมรับสารภาพ ก็อาจจะคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ


อย่างไรก็ตามเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 2 คน ในข้อหา ความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก /ความผิดตาม พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว /ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนสาหัส /และข้อหาเสพยาเสพติด

คุณอาจสนใจ

Related News