นายกรัฐมนตรีฌ็อง กัสเต็กซ์ (Jean Castex) ของฝรั่งเศส ประกาศว่ารัฐบาลจะมอบเงินจำนวน 100 ยูโร (ราว 3,800 บาท) ให้กับครัวเรือนที่มีรายได้น้อย เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึจากราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น แต่มีประชาชนบางส่วนออกมาวิจารณ์ว่ายังไม่เพียงพอ

นายกรัฐมนตรีกัสเต็กซ์ประกาศว่าเงินดังกล่าวจะมอบให้กับประชาชนที่มีรายได้ต่ำกว่า 2,000 ยูโรต่อเดือน (ราว 7,700 บาท) ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณทั้งหมด 3.8 พันล้านยูโร (ราว 140,000 ล้านบาท)

นอกจากนี้ นายกฯ ของฝรั่งเศส ยังให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ว่า ปัญหาราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มสูงขึ้น จะเกิดเพียงชั่วคราวเท่านั้น โดยการจ่ายเงิน 100 ยูโรจะดำเนินไปโดยอัตโนมัติและจะมาในสลิปเงินเดือนสำหรับพนักงานภาคเอกชนในเดือนธันวาคม ขณะที่ข้าราชการและผู้รับบำนาญ จะได้รับในเดือนมกราคมหรือช้ากว่านั้นเล็กน้อย

ทั้งนี้ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลฝรั่งเศสพยายามควบคุมราคาน้ำมันและไฟฟ้า และช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้น้อยจ่ายค่าไฟในช่วงฤดูหนาว เนื่องราคาพลังงานเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลกหลังจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังโรคระบาด

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลฝรั่งเศษต้องเผชิญแรงกดดันอย่างหนักในการลดภาษีพลังงานจากปัญหาราคาพลังงานเพิ่มสูงขึ้น แต่ทางด้านนายบรูโน เลอ แมร์ (Bruno Le Maire) รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของฝรั่งเศส โต้แย้งว่าการลดภาษี จะทำให้ปริมาณการใช้พลังงานจากฟอสซิลเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่รัฐบาลพยายามลดการใช้งานพลังงานรูปแบบดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ชาวฝรั่งเศสบางคนออกมาบอกว่า การจ่ายเงิน 100 ยูโรเพียงครั้งเดียวนั้น ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไร เพราะมันไม่เพียงพอ พร้อมย้ำว่า รัฐบาลควรหาวิธีการแก้ไขปัญหาที่แท้จริง

ส่วนคนอื่น ๆ ก็เห็นด้วยว่าการจ่ายเช็คจะไม่เปลี่ยนแปลงอะไร พร้อมกับยืนกรานว่ารัฐบาลควรเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำให้มากขึ้น