“ธรรมนัส” ฟิต นำคณะผู้สมัคร ส.ส.พปชร.ลุยช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมอยุธยา

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า เพื่อการกุศลพร้อมคณะและกลุ่มผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมถึงผู้นำท้องถิ่น ได้ร่วมลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ด้วยการแจกถุงยังชีพ และเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นให้แก่พี่น้อง  ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยในเขตเทศบาลตำบลหัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา

โดยจุดแรก ร.อ.ธรรมนัส ได้เข้านมัสการ พระครูวิศิษฎ์สรการ (พระครูไทย) ประธานมูลนิธิพุทธสุวัณณภูมิ วัดบันไดช้าง ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา เพื่อมอบถุงยังชีพช่วยเหลือชาวบ้านผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ใกล้เคียงวัด มีทั้งน้ำดื่ม 700 แพ็ค และ ถุงยังชีพ 600 ชุดพร้อมปัจจัยสำหรับซื้อสิ่งของจำเป็นด้วย

จากนั้น ร.อ.ธรรมนัส พร้อมด้วยพระครูไทย และคณะยังลงเรือท้องแบน เข้าไปมอบถุงยังชีพ และปัจจัยสำหรับซื้อสิ่งของจำเป็น พร้อมให้กำลังใจให้พี่น้องประชาชนในเขต เทศบาลตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ซึ่งได้สอบถามชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนน้ำท่วมบ้าน ทำให้รับทราบว่าปีนี้ ในบริเวณตำบลหัวเวียง อำเภอเสนามีปริมาณน้ำจำนวนมาก ทำให้ผู้สูงอายุ และลูกหลานที่ยังเป็นเด็กเล็กเดือดร้อนอย่างหนัก

ซึ่งทางร้อยเอกธรรมนัส รับปากจะนำปัญหาความเดือดร้อน และความต้องการช่วยเหลือเบื้องต้นไป แจ้งต่อ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคฯ เพื่อประสานหน่วยงานราชการเพื่อส่ความเหลื่อต่อไป " ท่านพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ได้ห่วงใยพี่น้องประชาชนทุกจังหวัด ที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมในครั้งนี้

จึงได้มอบหมายให้ผมในฐานะเลขาธิการพรรค พร้อมทั้งพี่น้องส.ส.ทุกท่านของพรรคออกเยี่ยมเยียน เพื่อช่วยเหลือเยียวยาบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบเหตุทุกครัวเรือนทันที

ต่อมา ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้โพสต์ภาพการช่วยเหลือ และระบุข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงการลงพื้นที่ว่าไม่ต้องการให้ชาวบ้านรู้ว่าตนเองนั้นเป็นใคร โดยการกำชับกับทีมงานทุกคนว่า "ห้ามบอกกับชาวบ้านว่าผมคือใคร"

"วันนี้ผมและทีมงานได้เดินนำสิ่งของช่วยเหลือเข้าไปมอบให้ชุมชน ริมแม่น้ำ ที่ ต.หัวเวียง อ.เสนา จ.อยุธยา ที่ได้รับความเดือดในตอนนี้โดยผมได้แนะนำตัวกับชาวบ้านว่าผมเป็นจิตอาสาและกำชับกับทีมงานว่าห้ามบอกกับชาวบ้านว่าผมคือใคร แค่นำสิ่งของมาช่วยเหลือและต้องการรับฟังปัญหาที่แท้จริงจากชาวบ้านเท่านั้น โดยจุดประสงค์ของผมคือไม่ต้องการคำพูดเอาใจและต้องการรับรู้ความรู้สึกจริงๆของชาวบ้านโดยไม่ต้องเกรงใจ เพื่อที่ผมจะนำไปบอกต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้แก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน และ ถ้าส่วนใดที่ตัวผมคนนี้สามารถทำให้กับพี่น้องประชาชนได้ทันทีผมก็จะทำให้ทุกท่านโดยไม่ลังเลครับ"