พ่อ-แม่เลี้ยง ‘พิยดา’ โวยถูกตำรวจนำหมายค้นเรียกตัวถึงรีสอร์ต พร้อมอายัดทรัพย์ไปตรวจสอบเส้นทางการเงิน ยืนยันลูกสาวบริสุทธิ์ ซัดทอดครอบครัวแฟนหนุ่มเป็นคนโกง ทำลูกสาวตัวเองเป็นแพะ

หลังจาก น.ส.พิยดา อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ที่หลอกลวงจะขายโทรศัพท์มือถือเด็กนักเรียนชั้นม 2 แล้วเชิดเงินหนี จนเด็กเครียดเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิต พร้อมด้วยทนายเข้ามอบตัวกับพลตำรวจตรีพิเชษฐ จีระนันตสิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อช่วงสายวานนี้ ก่อนจะถูกส่งไปสอบปากคำที่ สภ.นาหวาย อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ท้องที่ที่ออกหมายจับคดีโกงน้องก้อง โดย น.ส.พิยดา ให้การปฏิเสธทุกข้อหา ไม่เคยติดต่อคุยกับผู้เสียชีวิต และเลิกขายโทรศัพท์นานแล้ว พร้อมยืนยันไม่รู้จักกับ 2 ผู้ต้องหาที่ถูกจับก่อนหน้านี้

ด้านตำรวจ สภ.นาหวาย ได้ปากสอบปากคำ น.ส.พิยดาอย่างละเอียด ตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ ก่อนควบคุมตัวไว้ในห้องขังของสถานีตำรวจ พร้อมยึดทรัพย์สินของ น.ส.พิยดา ประกอบด้วย รถยนต์ BMW รุ่น X1, โทรศัพท์มือถือ และเงินสดประมาณ 7 แสนบาท รวมทั้งทรัพย์สินต่างๆ อีกจำนวนหนึ่งไว้ตรวจสอบ

ล่าสุดเช้าวันนี้ (29 ก.ย.) ตำรวจนำหมายค้นเข้าไปเชิญตัวนายกลยุทธ์ อายุ 45 ปี น.ส.วีรวรรณ อายุ 43 ปี พ่อและแม่เลี้ยง ของ น.ส.พิยดา จากรีสอร์ตที่พักแห่งหนึ่งใกล้กับสถานีตำรวจมาสอบปากคำด้วย โดย น.ส.วีรวรรณ ไม่พอใจ โวยวายที่ถูกตำรวจยึดอายัดทรัพย์และเอกสารไปตรวจสอบเส้นทางการเงิน บอกว่า เงินสดประมาณ 7 แสนบาท ที่เตรียมมาประกันตัว น.ส.พิยดา พร้อมด้วยเอกสาร และโทรศัพท์มือถือ ถูกยึดไปทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถติดต่อใครได้เลย ทำให้หมดหนทางที่จะยื่นประกันตัวนางสาวพิยดา

ครอบครัวมั่นใจว่า น.ส.พิยดา ไม่ได้เป็นคนโกงผู้เสียหาย เพราะเมื่อคืนถามแล้ว ลูกบอกว่า ไม่ได้โกง พร้อมซัดทอดว่า คนโกงผู้เสียหายจริงๆ นั้นเป็นฝ่ายครอบครัวแฟนลูกสาว ส่วนทรัพย์สินของนางสาวพิยดามาจากการขายเสื้อผ้าออนไลน์ อยากให้ตำรวจช่วยตรวจสอบเส้นทางการเงินของครอบครัวแฟนหนุ่มน้องพิยดาด้วยอีกทาง

ล่าสุดทั้งคู่ได้เช่ารถยนต์ขับจาก สภ.นาหวาย เข้าไปติดต่อธนาคารในตัวอำเภอเชียงดาว เพื่อขอหลักฐานยืนยันว่า เงิน 7 แสนบาท ที่ถูกอายัดไปเป็นของนายกลยุทธ์ ซึ่งเบิกจากธนาคารมาเพื่อประกันตัวลูกสาว ไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับ น.ส.พิยดา

ด้านทนายความ น.ส.พิยดา เผยว่า ผู้ต้องหาเครียด นอกจากถูกหมายจับคดีฉ้อโกง และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์แล้ว ล่าสุดยังถูกแจ้งข้อหาเพิ่มตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน ทำให้รู้สึกกังวลขึ้นมา กินข้าวไม่ค่อยได้ ซึ่งตนเองได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานก่อนยื่นประกันตัวที่ศาล

พันตำรวจเอก ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 เผยว่า แม้ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธแต่ที่ผ่านมาพนักงานสอบสวน ร่วมกับ สอท.และสืบสวนภาค 5 ได้สืบสวนมาอย่างละเอียดรอบคอบ พยานหลักฐานที่ใช้ออกหมายจับมีความชัดเจนและเพียงพอจะดำเนินคดี

ส่วนการประกันตัวเป็นสิทธิของผู้ต้องหา แต่ผู้ต้องหามีการกระทำผิดในหลายพื้นที่จึงขึ้นอยู่กับ พนักงานสอบสวนหรือศาลจะพิจารณาให้ประกันตัวหรือไม่

ส่วนท้องที่อื่นจะมีการอายัดตัวหรือไม่อยู่ระหว่างตรวจสอบหมายจับเพิ่มเติม โดยทราบว่ามีอีกประมาณ 4 คดีบางคดีทยอยออกหมายจับแล้ว บางคดีเริ่มมีการร้องทุกข์เพิ่มเติม ทั้งหมดมีพฤติการณ์ลักษณะเดียวกัน ซึ่งน.ส.พิยดา เคยถูกดีเอสไอจับกุมดำเนินคดีมาแล้ว โดยครั้งนั้นให้การอ้างว่าขายสินค้าออนไลน์ แต่รับสินค้าจากเพจอื่นมาขาย เมื่อรับเงินมาแล้วเพจหลักไม่ส่งสินค้าให้