ปลัด สธ. เปรียบล็อกดาวน์เหมือนเตะเข้าเป้า วัคซีนช่วยทำให้เปลี้ย และเตะตัดขาด้วย ATK

ต่างประเทศ

ปลัด สธ. เปรียบล็อกดาวน์เหมือนเตะเข้าเป้า วัคซีนช่วยทำให้เปลี้ย และเตะตัดขาด้วย ATK

โดย thichaphat_d

29 ก.ย. 2564

57 views

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงขาลง เป็นผลมาจากมาตรการล็อกดาวน์ก่อนหน้านี้ ผู้ป่วยหนักและผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจลดลงตามลำดับ จากก่อนหน้านี้ 4- 5 พันรายต่อวัน ล่าสุด 3 พันรายต่อวัน มีการประมาณการว่าจะมีผู้ติดเชื้อราว 5 พันรายต่อวันก่อนสิ้นเดือน ต.ค.นี้


อย่างไรก็ตาม ยังมีหลายปัจจัยที่จะทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น คือ การติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน (คลัสเตอร์) และเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ และมีการประเมินฉากทัศน์ว่าตัวเลขจะกระดกขึ้นหลังเดือน ต.ค. เพราะหมดแรงเหวี่ยงของช่วงล็อกดาวน์ จึงต้องพยายามทำให้การพยากรณ์นี้ไม่เป็นจริง สิ่งที่เราต้องทำคือการการป้องกันตัวเอง การตรวจ ATK มาตรการโควิด ฟรี เซ็ตติ้ง ซึ่งคาดว่าน่าจะกดการติดเชื้อลงได้


“ถ้าถามว่าก่อนหน้านี้ก็ทำ แต่ทำไมไม่ลดลง ต้องบอกว่าตอนนี้บริบทเปลี่ยนไป 2 เดือนก่อน ตอนนั้นการติดเชื้อไม่ลดลง เพราะความครอบคลุมของวัคซีนต่ำ เลยไม่เสริมกัน แต่วันนี้อัตราการฉีดวัคซีนของไทยครอบคลุมสูงขึ้น อัตราการป่วยหนักก็เริ่มลดลง


ซึ่งตอนนี้คนไทยเกือบ 50% ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม ส่วนเข็ม 2 ฉีดแล้วครึ่งหนึ่งของคนฉีดเข็ม 1 คาดว่าภายในสิ้นเดือน ต.ค.นี้ สัดส่วนการฉีดวัคซีนเข็ม 1 เท่ากับ 60% เข็ม 2 อยู่ที่ 50% ถ้าสิ้นเดือน ธ.ค. ตามเป้าหมายคือเข็ม 1 จำนวน 80 % และเข็ม 2 จำนวน 70% เท่ากับอารยประเทศ ก็เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้


ปัจจัยที่จะทำให้ผู้ติดเชื้อเหวี่ยงขึ้นไปอีก คือ เกิดคลัสเตอร์ใหญ่ และเชื้อกลายพันธุ์ ซึ่งตอนล็อกดาวน์เหมือนเราเตะเข้าเป้าไปแล้ว ตามด้วยการฉีดวัคซีนทำให้เปลี้ยลง และเตะตัดขาด้วย ATK ทำให้เชื้อไวรัสเริ่มอ่อนกำลังลง แต่เราก็มีการ์ดป้องกันตัวเอง และโควิดฟรีเซ็ตติ้ง จะเป็นระยะห่างที่ทำให้ไวรัสชกเราได้ยาก


ดังนั้น เราก็จะอยู่กับมันไปอย่างนี้ แต่โควิดจะเตี้ยลงทุกวันๆ คลัสเตอร์ใหญ่ๆ ก็เกิดได้ยาก ส่วนเรื่องการกลายพันธุ์ มีผู้เชี่ยวชาญระบุว่าไวรัสกลายพันธุ์ได้ระดับหนึ่งเท่านั้น น่าจะอยู่ร่วมกันได้โดยโรคไม่รุนแรง คาดว่าจะสามารถรักษาระบบอย่างนี้ไปได้ ต้นปีหน้า ราวๆ เดือน มี.ค. 2565 โรคน่าจะสงบพอสมควร ใกล้ภาวะปกติ แต่ประชาชนก็ต้องสวมหน้ากากอนามัยต่อไปอีกระยะหนึ่ง”


นพ.เกียรติภูมิ กล่าวด้วยว่า รูปแบบการติดเชื้อของเราจะเหมือนกับยุโรป เช่น อังกฤษ ที่ประชากรใกล้เคียง เราจะฉีดวัคซีนให้ใกล้เคียงเขา ซึ่งเดือนหน้าก็จะเท่ากัน บวกกับมีมาตรการควบคุมป้องกันโรคเต็มที่ รูปแบบเราก็จะเป็นเหมือนยุโรป


คาดว่ามีการติดเชื้อวันละไม่เกิน 5 พันคน ก็สามารถดูแลได้ และไม่มีการป่วยหนัก เสียชีวิตจำนวนมาก อัตราการติดเชื้อและเสียชีวิตไม่มากไปกว่าไข้หวัดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ในระยะนี้ที่การติดเชื้ออยู่ในช่วงขาลง แต่จะเห็นอัตราการติดเชื้อยังเหวี่ยงหลักพันกับหลักหมื่นอยู่



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/qlRTLyWywL8

คุณอาจสนใจ