ศบค.ไฟเขียวนักดนตรี-โรงหนัง ปรับเวลาเคอร์ฟิว เข้าไทยลดกักตัวเหลือ 7 วัน

สังคม

ศบค.ไฟเขียวนักดนตรี-โรงหนัง ปรับเวลาเคอร์ฟิว เข้าไทยลดกักตัวเหลือ 7 วัน

โดย JitrarutP

27 ก.ย. 2564

98 views

ศบค.ต่อเคอร์ฟิว อีก 15 วัน ลดเวลาเป็น 4 ทุ่ม - ตี 4 พื้นที่แดงเข้ม ไฟเขียวนักดนตรี-โรงภาพยนตร์-ฟิตเนส เปิดแผนวัคซีน จัดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว พร้อมลดเวลากักตัว


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. เปิดเผยในการแถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันนี้ (27 ก.ย. 64) หลังจาก ศบค. ชุดใหญ่ได้มีการขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ครั้งที่ 14 ตั้งแต่ 1 ต.ค. จนถึง 30 พ.ย. เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด โดยได้มีการปรับเวลาเคอร์ฟิว เป็น 22.00 - 04.00 น. ในพื้นที่แดงเข้ม


โดยร้านอาหารสามารถเล่นดนตรีได้ (ภายใต้มาตรการ) จำกัดไม่เกิน 5 คน นักร้อง ถอดหน้ากาก เฉพาะร้องเพลง ห้ามสัมผัสลูกค้า (งดจำหน่าย-ดื่มสุราในร้าน) ส่วนธุรกิจโรงภาพยนตร์ ฉายภาพยนตร์ จำกัด 50% นั่งเว้นที่ (ยกเว้นกรณีมาด้วยกัน) สวมหน้ากากตลอดเวลา – ไม่รับประทานอาหาร




ด้านการปรับมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 เน้นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ซึ่งเป็นข้อเสนอการปรับมาตรการสำหรับกิจการที่ปิดตามข้อกำหนดฉบับที่ 28 คือ


1.ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและเด็กอ่อนก่อนวัยเรียน เปิดดำเนินการได้ ต้องผ่านการพิจารณา โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหรือกรุงเทพมหานคร


2.ห้องสมุดสาธารณะ, ห้องสมุดชุมชน, ห้องสมุดเอกชนและบ้านหนังสือ


3.พิพิธภัณฑ์, พิพิธภัณฑ์สถาน, พิพิณฑ์ท้องถิ่น รวมถึงพิพิธภัณฑ์ ในลักษณะเดียวกัน


4.ศูนย์การเรียนรู้ หรือศูนย์ควบคุมวิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา, อุทยานวิทยาศาสตร์ หอศิลป์ เปิดได้ต้องจำกัดจำนวนคน เช่น 1 คนต่อ 4 ตารางเมตร หรือเข้าชมได้ไม่เกิน 75% ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ห้ามรับประทานอาหาร


5.ร้านทำเล็บ เปิดดำเนินการได้ โดยนัดหมายล่วงหน้า


6.ร้านสัก เปิดดำเนินการได้โดยนัดหมายล่วงหน้า ซึ่งลูกค้าต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์หรือมีATK/ Rt-PCR ผลเป็นลบภายใน 72 ชั่วโมง


7.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพนวดสปาเปิดดำเนินการได้โดยนัดหมายล่วงหน้าจำกัดเวลาบริการไม่เกิน 2 ชั่วโมงต่อคน สามารถเปิดบริการที่ใช้น้ำเพื่อสุขภาพในกิจการสปาภายใต้พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ 2559 โดยลูกค้าได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์หรือมี ATK/ Rt-PCR ผลเป็นลบภายใน 72 ชั่วโมง และยังไม่เปิดบริการอบไอน้ำ


8.ธุรกิจโรงภาพยนตร์ เปิดดำเนินการได้ถึง 21:00 น. ลดจำนวนเหลือ 50% นั่ง แต่ถ้ามาด้วยกันให้นั่งด้วยกันได้ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ไม่รับประทานอาหาร


9.การเล่นดนตรีในร้านอาหาร จำกัดจำนวนนักดนตรีไม่เกิน 5 คน นักดนตรีสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาห้ามสัมผัสคลุกคีกันระหว่างนักร้องนักดนตรีและลูกค้า 10.ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุมยังไม่เปิดดำเนินการให้มีการติดตามสถานการณ์ 2-4 สัปดาห์ เนื่องจากทำให้มีการเดินทางร่วมอบรมสัมมนาจากหลายพื้นที่และรวมกลุ่มคนจำนวนมาก


ด้านการปรับเงื่อนไขมาตรการสำหรับกิจการหรือกิจกรรมหนึ่งการห้ามออกนอกเคหะสถานเวลา 22:00 น. ถึง 04:00 น. อย่างน้อย 15 วัน และจะประเมินอีกรอบ 2.ศูนย์การค้าห้างสรรพสินค้าเปิดบริการได้ถึง 21:00 น. โดยให้เปิดสถาบันกวดวิชาได้ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหรือกทม.ให้เปิดโรงภาพยนตร์, สปา,ห้องออกกำลังกาย, ฟิตเนส, สระว่ายน้ำ ได้


แต่ยังไม่เปิดดำเนินการทุกเกมเครื่องเล่นร้านเกมสวนสนุกสวนน้ำและห้องประชุมจัดเลี้ยง 3.ร้านสะดวกซื้อตลาดสดหรือตลาดนัดเฉพาะจำหน่ายเครื่องอุปโภคบริโภคเปิดดำเนินการได้ถึงเวลา 21:00 น. 4 ประเภทกีฬากลางแจ้งหรือในร่มที่เป็นที่โล่ง เปิดดำเนินการได้ทุกประเภทกีฬาไม่เกิน 21:00 น. โดยจำกัดจำนวนผู้เข้าชมกรณีประเภทกีฬาในร่มจัดการแข่งขันได้โดยไม่มีผู้ชมกรณีประเภทกีฬากลางแจ้งจัดให้มีผู้ชมไม่เกิน 25% ของความจุสนามและผู้ชมต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์หรือมี ATK/ Rt-PCR ผลเป็นลบภายใน 72 ชั่วโมง




นอกจากนี้ ยังปรับลดระยะเวลากักกัน ของผู้ที่เดินทางเข้าราชอาณาจักร ใน 2 กลุ่มที่ 1 มีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน ครบตามเกณฑ์อย่างน้อย 14 วัน เหลือวันกักตัว 7 วัน อากาศอันนี้ก็ให้ ส่วนกลุ่มที่ 2 ที่ไม่มีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ หากเข้ามาทางอากาศให้กักตัวอย่างน้อย 10 วัน ทางบกกักตัวอย่างน้อย 14 วัน


สำหรับจังหวัดที่กำหนดเป็นพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว โดยจะจัดให้เป็นพื้นที่โซนสีฟ้า ระยะนำร่อง 1 - 31 ตุลาคม 2564 ใน 2 จังหวัด และพื้นที่เกาะ โดยจะดำเนินการในพื้นที่นำร่องเดิมที่ดำเนินการตั้งแต่เดือนกรกฎาคม,สิงหาคม 2564 คือ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า) พังงา (เขาหลัก เกาะยาว) กระบี่ (เกาะพีพี เกาะไหงไร่เลย์ คลองม่วง ทับแขก) โดยใช้เกณฑ์กำหนดพื้นที่นำร่องด้านเศรษฐกิจ ซึ่งถือเป็นเมืองหลักหรือจังหวัดที่มีสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งหมด


ที่น่าสนใจมีชื่อของกรุงเทพมหานคร จัดอยู่ในพื้นที่นำร่องระยะที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 1 - 30 พฤศจิกายน 2564 รวมกัน 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กระบี่ (ทั้งจังหวัด) พังงา (ทั้งจังหวัด) ประจวบคีรีขันธ์ (ตำบลหัวหิน หนองแก) เพชรบุรี (เทศบาลเมืองชะอำ) ชลบุรี (พัทยา อำเภอบางละมุง ตำบลนาจอมเทียน ตำบลบางเสร่) ระนอง (เกาะพยาม) เชียงใหม่ (อำเภอเมือง แม่ริม แม่แตง ดอยเต่า) เลย (เชียงคาน) และบุรีรัมย์ (เมือง) ซึ่งเกณฑ์กำหนดพิจารณาด้านเศรษฐกิจ คือ เป็นเมืองหลัก หรือจังหวัดที่มีสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 ของรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งหมด




ส่วนแผนการจัดสรรวัคซีน โฆษก ศบค. เปิดเผยว่า ในเดือนตุลาคมนี้จะมีวัคซีนมาอีก 24 ล้านโดส ขณะที่เดือนพฤศจิกายน 23 ล้านโดส และเดือนธันวาคม 24 ล้านโดส รวมวัคซีนปีนี้ 178.2 ล้านโดส นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบจัดซื้อวัคซีนจากสเปนและฮังการี ซึ่งมีราคาถูกกว่าท้องตลาด เตรียมพิจารณาเสนอครม. เพื่อออกงบประมาณในการจัดซื้อต่อไป โดยการจัดหาวัคซีน ปี 2565 จำนวน 120 ล้านโดส เป็น แอสตราเซเนกา 60 ล้านโดส, ไฟเซอร์ 30-50 ล้านโดส และวัคซีนอื่นๆ 10-30 ล้านโดส

คุณอาจสนใจ

Related News