เมืองฮาร์บิน เมืองเอกของมณฑลเหย่หลงเจียง ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ประกาศมาตรการ “กึ่งล็อกดาวน์” สกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังพบผู้ติดเชื้อในชุมชนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ก.พ. เป็นต้นมา

เมืองฮาร์บิน มีประชากรราว 10 ล้านคน พบผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 3 ราย จากทั้งหมด 16 รายทั่วประเทศในวันที่ 21 ก.ย. โดยครั้งล่าสุดที่เมืองแห่งนี้พบผู้ติดเชื้อในชุมชนคือเมื่อวันที่ 4 ก.พ.

ทางการฮาร์บินมีคำสั่งให้ประชาชน งดเดินทางออกจากเมืองโดยไม่มีธุระจำเป็น พร้อมสั่งปิดโรงภาพยนตร์, สถานที่ออกกำลังกาย และห้องเล่นไพ่นกกระจอก ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ก็เปิดรับผู้เข้าชมได้เพียงครึ่งหนึ่ง

โรงเรียนระดับชั้นอนุบาล, ประถม และมัธยมในเมืองฮาร์บิน ถูกสั่งงดการเรียนการสอนในชั้นเรียนเป็นเวลา 1 สัปดาห์ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย.

ผู้ป่วยหนึ่งใน 3 รายที่ฮาร์บินมีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวกหลังเดินทางไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาล ส่วนอีก 2 คนเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยคนแรก และเพิ่งเดินทางกลับมาจากฟิลิปปินส์เมื่อปลายเดือน ส.ค. โดยผ่านการกักตัวมาแล้วรอบหนึ่งที่เมืองกว่างโจว ก่อนจะกลับมากักตัวซ้ำอีกที่บ้านในฮาร์บิน

ทั้งนี้ ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าทั้ง 3 คนมีความเชื่อมโยงกับการระบาดของโควิด-19 ที่มณฑลฝูเจี้ยนหรือไม่ ซึ่ง 4 เมืองในมณฑลฝูเจี้ยน ได้แก่ ผู่เถียน, เซี่ยเหมิน, เฉวียนโจว และจางโจว ก็มีคำสั่งให้ประชาชนเลี่ยงเดินทางออกนอกเมืองโดยไม่จำเป็น

และมีมาตรการล็อกดาวน์พื้นที่เสี่ยง สั่งปิดสถานที่สาธารณะ รวมถึงหยุดให้บริการรถประจำทางระยะไกล ขณะที่เด็กอนุบาล ประถม มัธยม ก็ให้เรียนหนังสือจากที่บ้าน