เจ้าหน้าที่บนเกาะลา ปัลม่า (La Palma) ของสเปน สั่งอพยพประชาชนเพิ่มอีกกว่า 1 พันคน ภายใน 2 ชั่วโมง หลังธารลาวาจากภูเขาไฟไหลทะลักเข้าเขตชุมชน กลืนกินบ้านเรือน ท้องถนนและพื้นที่การเกษตร

ธารลาวาขนาดมหึมาความสูง 6 เมตร จากภูเขาไฟ "คุมเบร วีฮา" (Cumbre Vieja) เคลื่อนตัวเข้ามายังเขตชุมชนในเมืองโทโดเก้ จากสภาพภูมิประเทศของเกาะลา ปัลมา ที่เคยเป็นเกาะแห่งสรวงสวรรค์ในเขตร้อนที่เคยเขียวขจี กลายสภาพเป็นสีดำและสีเทา ลาวาปกคลุมไปทั่วพื้นที่การเกษตร ท้องถนน บ้านเรือนและสระว่ายน้ำ

มีรายงานแผ่นดินไหวเกิดขึ้นใกล้ภูเขาไฟอีกอย่างน้อย 4 ครั้งยิ่งทำให้ภูเขาไฟพ่นลาวา ก้อนหินหลอมละลายเถ้าถ่าน และแก็สพิษ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ฝนที่ตกลงมาก็ทำให้เกิดฝนกรดซ้ำเติมลงมาอีก

ขณะที่ธารลาวาที่ไหลทะลักลงจากเนินเขา คืบคลานเข้าใกล้ชุมชนชายฝั่งมากขึ้น ซึ่งเป็นจุดที่มีประชาการอาศัยอยู่หนาแน่น เมื่อวานนี้ทางการสั่งอพยพประชาชนเพิ่มอีก 1 พันคนที่อยู่ภายในรัศมีอย่างน้อย 2 กิโลเมตร ภายในเวลา 2 ชั่วโมง ทำให้ตอนนี้ประชาชนที่ต้องอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงมีมากกว่า 6 พันคนแล้ว ล่าสุด ธารลาวาได้เผาทำลายบ้านเรือนประชาชนไป 190 หลังแล้ว

ทางการยังประกาศห้ามประชาชนนำเรือเข้าใกล้พื้นที่ชายฝั่งภายในรัศมี 3.7 กิโลเมตร ในจุดที่ธารลาวากำลังไหลลงสู่มหาสมุทรแอตแอนติกด้วย เพราะลาวาที่ร้อนจัดจะทำให้เกิดปฏิกริยาทางเคมีกับน้ำทะเล ทำให้เกิดระเบิดและแก็สพิษ

อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของธารลาวา ที่เป็นไปอย่างช้าๆประมาณ 120 เมตรต่อชั่วโมง ทำให้ธารลาวาจะยังไม่ไหลลงสู่มหาสมุทรภายในวันนี้ ขณะที่สถาบันภูเขาไฟเผยว่า จนถึงขณะนี้ภูเขาไฟลูกดังกล่าวพ่นซัลเฟอร์ ไดออกไซด์ ประมาณ 8,000-10,500 ตัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจกับประชาชนในพื้นที่

เกาะลา ปัลมา ซึ่งเป็นหนึ่งในหมู่เกาะคานารี่ มีประชากรอาศัยอยู่ 8.5 หมื่นคน และเป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งเป็นที่นิยมของชาวยุโรป