จากกระแสข่าวการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ ซึ่งจะทำให้ราคาบุหรี่แพงขึ้น ล่าสุดวานนี้ (20 ก.ย.) นางวราภรณ์ นะมาตร์ ผู้อำนวยการบริหาร สมาคมการค้ายาสูบไทย กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา เริ่มมีบรรดาร้านค้าส่งรายใหญ่ หรือ ยี่ปั๊ว กักตุนบุหรี่ เพื่อรอการปรับขึ้นภาษีในวันที่ 1 ตุลาคมนี้แล้ว

เห็นได้จากเวลาร้านค้าปลีก โชห่วยสั่งซื้อ จะได้ของน้อยกว่าเดิม เช่น สั่งไป 5 ลัง จะได้รับของเพียง 2 ลัง ซึ่งแม้ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าราคาที่แท้จริงจะขึ้นเท่าไร แต่เชื่อว่าจะแพงขึ้นและมีกำไรเพิ่มแน่นอน

โดยหากขึ้นภาษีตามประกาศเดิมจาก 20% เป็น 40% บุหรี่ซอง 60 บาทน่าจะแพงขึ้นอีกซองละ 15-20 บาทเลยทีเดียว แต่หากมีการทบทวนภาษี ขึ้นราคาซอง 5-6 บาท ก็ยังเป็นราคาที่จูงใจให้กักตุนอยู่ดี เพราะขายได้แพงขึ้นถึง 10%

อย่างไรก็ตาม ในส่วนประชาชนตอนนี้ยังไม่กระทบ หาซื้อบุหรี่ได้ปกติ ของยังไม่ขาดตลาด และไม่มีการฉวยโอกาสขึ้นราคา แต่เป็นห่วงว่าหลังจากนี้อาจมีบุหรี่เถื่อนจากเพื่อนบ้านลักลอบเข้ามาขายมากกว่าเดิม โดยเฉพาะในภาคใต้ที่มีขายเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีส่วนต่างของราคาเพิ่ม ซึ่งทำให้ร้านค้าโชห่วยมียอดขายตกลงมาก

ด้านนายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า การปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่จะต้องโจทย์ 4 ด้าน ได้แก่

1.การดูแลเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบให้สามารถขายใบยาได้ในราคาที่เหมาะสมและไม่เป็นภาระของรัฐ

2.การดูแลสุขภาพของประชาชน โดยไม่ส่งเสริมให้คนไทยสูบบุหรี่เพิ่มขึ้น

3.การปราบปรามบุหรี่เถื่อน หลังพบปัญหาบุหรี่เถื่อนระบาดอย่างหนักตามแนวชายแดน

และ 4.การเก็บรายได้ภาษีเข้ารัฐ

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/3gwI9RbkOZ8