หนุ่มขับรถส่งสินค้าร้องสื่อ ถูกตำรวจหัวร้อนขับรถเก๋งปาดหน้าโชว์บัตรกร่าง-ชักปืนขู่ ไม่พอใจแค่แซงไม่พ้น แจ้งตำรวจยังช่วยเหลือพวกเดียวกัน ไม่รับแจ้งความ หวั่นใจไม่ได้รับความเป็นธรรม ล่าสุดนัดไปไกล่เกลี่ยแล้วบ่ายนี้

คนขับรถบรรทุกที่เป็นผู้เสียหาย ถ่ายคลิปไว้ขณะขับรถกลับจากอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มาที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่เจอรถเก๋งคันนี้ขับปาดหน้าให้จอดอ้างตัวเป็นตำรวจ พร้อมหยิบบัตรตำรวจมาโชว์ พูดจาข่มขู่ว่าเป็นรถบรรทุกขับเลนขวาผิดกฎหมาย เมื่อผู้เสียหายพยายามชี้แจง ชายคนดังกล่าวก็ไม่พอใจชักปืนขึ้นมาขู่ให้ลงจากรถ แต่ผู้เสียหายไปยอมลง และขอให้พาไปโรงพัก แต่ชายที่อ้างเป็นตำรวจไม่ยอมพาไป

หลังจากขับไปอีกระยะ ชายคนดังกล่าวยังขับรถในลักษณะก่อกวนกีดขวางการจราจร และลงมายืนขวางหน้ารถ ตะโกนด่าทอเรียกให้ลงจากรถ โดยมีท่าทีคล้ายคนเมา เมื่อผู้เสียหายไม่ยอมลง ร้องขอให้แจ้งตำรวจมา ชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจก็ขับรถออกไป

แต่ก็ขับในลักษณะก่อกวน เปิดไฟผ่าหมากตลอดเวลา ปาดซ้าย ปาดขวา กีดขวางรถบรรทุกของผู้เสียหาย แล้วเบรกตัดหน้า ทำให้การจราจรบนถนนเส้นดังกล่าวติดขัด โดยคลิปที่ผู้เสียหายถ่ายไว้มีความยาวกว่า 10 นาที

ผู้สื่อข่าวไปพบกับผู้เสียหาย นายอนุพงษ์ หมื่นระย้า อายุ 33 ปี ชาวตำบลท่าทองใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นพนักงานขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ของบริษัทขนส่งรายหนึ่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เล่าว่า เหตุเกิดช่วงเย็นของวันที่ 18 กันยายน ตนขับรถบรรทุกพ่วง ไปรับอาหารสัตว์ที่โรงงานในพื้นที่ ตำบลบ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา กลับมาที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ขณะเดินทางกลับ เวลาประมาณ 5 โมงครึ่ง เดินทางถึงช่วงเขตรอยต่ออำเภอบางกล่ำ ตนได้ขับแซงรถบรรทุก 10 อีกคัน ซึ่งวิ่งอยู่ในเลนซ้าย และสังเกตเห็นว่ามีรถเก๋งสีขาววิ่งตามหลังมา ซึ่งตนได้ใช้เวลาประมาณหนึ่งในการแซงรถบรรทุก 10 ล้อ เนื่องจากเป็นช่วงขึ้นเนิน จนเมื่อตนขับแซงรถบรรทุก 10 ล้อ ได้สำเร็จ รถเก๋ง โตโยต้าแคมรี่ สีขาว ก็แซงซ้ายขึ้นมา และปาดรถของตนในลักษณะให้หยุดรถ จากนั้นก็เป็นไปตามคลิป

ตอนที่ถูกชักปืนมาข่มขู่ตน ตนเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงขอให้ชายคนดังกล่าวพาไปพูดคุยที่โรงพัก แต่ชายคนดังกล่าวไม่ยอมพาไป แต่ขับรถในลักษณะก่อกวนไม่ให้ตนเดินทางต่อ จนรถติดขัดเป็นทางยาว ตนจึงถ่ายคลิปไว้ และพยายามโทรแจ้ง 191 กระทั่งเวลาประมาณ 2 ทุ่ม ขับมาถึงจุดตรวจด่านโควิด-19 ของ สภ.รัฐภูมิ จึงจอดขอความช่วยเหลือ

ซึ่งเจ้าหน้าที่ประจำด่าน ก็อ้างว่าชายคนดังกล่าวเป็นตำรวจจริง และให้ตนกลับไปแจ้งความที่ สภ.รัฐภูมิ แต่ตนไม่สะดวกเนื่องจากเป็นรถบรรทุกพ่วง และร้องขอให้เจ้าหน้าที่ประจำด่านช่วยพาไปแจ้งความ แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ พร้อมทั้งไกล่เกลี่ยไม่ให้ติดใจเอาความ บอกให้คนเดินทางต่อ ทั้งที่ผู้ก่อเหตุมีอาการมึนเมาอย่างเห็นได้ชัด

ที่ร้อนใจกว่านั้น หลังจากลงของที่สุราษฎร์ธานีเสร็จ ก็รีบเดินทางย้อนกลับไปแจ้งความที่ สภ.รัตภูมิ แต่ร้อยเวรที่เข้าเวรอยู่ว่าไม่รับแจ้งความ บอกให้รอร้อยเวรคนที่เข้าเวรอยู่ในช่วงที่เกิดเหตุเป็นคนมารับแจ้งความ ทำให้ตนงุนงงกับเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างมาก จึงได้เพียงลงบันทึกประจำวันไว้

และเมื่อขอถ่ายภาพหรือขอคัดสำเนาประจำวัน ตำรวจก็ไม่ให้ถ่ายภาพ และยังติดต่อตำรวจที่ก่อเหตุให้เข้ามาพูดคุยไกล่เกลี่ยด้วย แต่ตนไม่ไกล่เกลี่ย จึงเดินทางกลับสุราษฎร์ธานีทันที รู้สึกเสียความรู้สึก และเสียเวลาที่เดินทางไป สภ.รัตภูมิ เป็นอย่างมาก อยากให้มีการตรวจสอบการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจรัฐภูมิ และตำรวจ สภ.รัฐภูมิ ด้วยว่า ถูกต้องและเป็นธรรมกับประชาชนหรือไม่

ล่าสุดตำรวจ สภ.รัตภูมิ ได้ติดต่อให้ผู้เสียหายให้เดินทางไปพบช่วงบ่ายวันนี้ (20 ก.ย.) เบื้องต้นจะเป็นการนัดเจรจาไกล่เกลี่ย