ตร.ไซเบอร์ เตรียมเรียก ‘ไข่เน่า’ ดาว OnlyFans รับทราบข้อกล่าวหาสัปดาห์หน้า

ข่าวโซเชียล

ตร.ไซเบอร์ เตรียมเรียก ‘ไข่เน่า’ ดาว OnlyFans รับทราบข้อกล่าวหาสัปดาห์หน้า

โดย nicharee_m

18 ก.ย. 2564

410 views

ตำรวจ บช.สอท. หรือตำรวจไซเบอร์เตรียมแจ้งข้อกล่าวหา น้องไข่เน่าเซเลบเว็บไซต์ Only Fans ชื่อดัง และแฟนหนุ่มในสัปดาห์หน้า แม้เจ้าตัวจะทวีตข้อความตอบโต้สื่อมวลชนว่าเป็นเพียงการเข้าไปให้ปากคำในฐานะพยานเท่านั้น และเตรียมฟันข้อหาอีกคดีในเดือนนี้


จากกรณีที่ก่อนหน้านี้กองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ ได้ออกหมายเรียกให้ user ของเว็บไซต์ only fans ที่ใช้ชื่อว่า ‘ไข่เน่า’ เข้ามาสอบปากคำกับพนักงานสอบสวน 2 ครั้ง จากกรณีที่มีการผลิตและเผยแพร่คลิปที่ทำร่วมกับแฟนลงในเว็บไซต์ดังกล่าว มีผู้เข้าไปติดตามและจ่ายค่าสมาชิกเป็นจำนวนมาก


พลตำรวจโท กรไชยคล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. หรือ ตํารวจไซเบอร์ เปิดเผยว่า ล่าสุดชุดสืบสวนสอบสวนได้ทำการสรุปรวบรวมคำให้การของน้องไข่เน่าและพยานหลักฐานที่ตำรวจไซเบอร์สามารถรวบรวมได้ เบื้องต้นพบว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ ข้อหานำเข้าสื่อลามกที่ประชาชนอาจเข้าถึงได้ และประมวลกฎหมายอาญา ข้อหาร่วมกันทำผลิตสื่อลามกอนาจาร และกระทำขายหน้าต่อธารกำนัล ซึ่งโทษสูงสุดมีตั้งแต่จำคุกและปรับ โดยพนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกน้องไข่เน่าและแฟนหนุ่มมารับทราบข้อกล่าวหาในสัปดาห์หน้า ที่กองบัญชาการตำรวจไซเบอร์


ส่วนกรณีที่เจ้าตัวออกมาทวีตข้อความลงในทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า ตํารวจไซเบอร์รับไปสอบปากคำในฐานะพยานเท่านั้น เรื่องดังกล่าวชี้แจงว่าผู้ที่เข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในฐานะพยานหรือในส่วนใดก็ตาม หากพบว่ามีการกระทำความผิดที่เข้าข่ายที่สามารถดำเนินคดีได้ ก็จำเป็นต้องแจ้งข้อกล่าวหาตามขั้นตอนและดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน ซึ่งข้อหาดังกล่าวเจ้าตัวก็สามารถชี้แจงตามขั้นตอนในชั้นศาลได้ตามสิทธิที่มีอยู่


นอกจากนี้ตำรวจไซเบอร์ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบคลิปของช่องยูทูบ ‘บ้านกูเอง’ ในรายการ ‘เรื่องบนเตียงระเบียงก็นับ’ ซึ่งน้องไข่เน่า ไปให้สัมภาษณ์กับยูทูบเบอร์รายหนึ่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการให้ฝ่ายกฎหมายของตำรวจไซเบอร์ตรวจสอบว่าจะเข้าข่ายความผิดในข้อหาใดบ้าง แล้วต้องการให้ยูทูบเบอร์คนดังกล่าวเข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในเดือนกันยายน เกี่ยวกับประเด็นเรื่องวัตถุประสงค์ในการทำคลิปดังกล่าว รวมถึงเนื้อหาที่ได้มีการตัดต่อเผยแพร่ออกทางช่องของตัวเอง


เบื้องต้นอาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ข้อหายุยงส่งเสริมให้กระทำอนาจาร ให้กระทำความผิด และจะส่งเรื่องให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. พิจารณาว่า เข้าข่ายความผิดอื่นๆ อีกหรือไม่

คุณอาจสนใจ