จีนประณามข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ อังกฤษและออสเตรเลีย กรณีการถ่ายทอดเทคโนโลยีสร้างเรือดำน้ำ ว่า ไร้ซึ่งความรับผิดชอบ ส่งผลต่อเสถียรภาพและสันติภาพของภูมิภาค

นายจ้าว ลี่เจี้ยน (Zhao Lijian) โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนแถลงที่กรุงปักกิ่งเมื่อวานนี้ว่า จีนจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หลังประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ, นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษและ นายกรัฐมนตรีสก็อต มอร์ริสัน ผู้นำออสเตรเลีย ประกาศความร่วมมือด้านความมั่นคง กรณีที่สหรัฐฯและอังกฤษ จะช่วยถ่ายทอดเทคโนโลยีสร้างเรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์ให้กับออสเตรเลีย ซึ่งจีนมองว่า สหรัฐฯกำลังมองหาพันธมิตรเพื่อสกัดกั้นอิทธิพลของจีน ที่กำลังเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกำลังทางทหาร, กรณีไต้หวัน และการเสริมกำลังในทะเลจีนใต้

นายจ้าวยังกล่าวอีกว่า ความร่วมมือดังกล่าวของสหรัฐฯ อังกฤษและออสเตรเลีย จะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อสันติภาพในภูมิภาค และจะยิ่งทำให้เกิดการแข่งขันด้านอาวุธที่รุนแรงมากขึ้น ความเคลื่อนไหวนี้เป็นเสมือนการทำสงครามเย็นที่ล้าสมัย ซึ่งจีนมองว่า ทั้งสามประเทศนี้กำลังทำลายผลประโยชน์ของตัวเอง

ขณะที่เนื้อหาในบทบรรณาธิการของสื่อทางการจีนต่างก็วิพากษ์วิจารณ์ข้อตกลงความร่วมมือของสามชาติ หนึ่งในนั้นมีหนังสือพิมพ์ โกลเบิ้ล ไทมส์ ที่ระบุว่า ออสเตรเลียกำลังเป็นปฏิปักษ์ต่อจีน

สหรัฐฯกำลังแบ่งปันเทคโนโลยีเรือดำน้ำเป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปี ก่อนหน้านี้แบ่งปันให้กับอังกฤษเพียงประเทศเดียว นั่นหมายความว่า ออสเตรเลียจะสามารถสร้างเรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์ ที่รวดเร็วและตรวจจับได้ยากกว่า เทคโนโลยีนี้จะทำให้เรือดำน้ำอยู่ใต้น้ำได้นานหลายเดือนและสามารถยิงขีปนาวุธได้ไกลมากขึ้น แม้ออสเตรเลียจะกล่าวว่า ออสเตรเลียไม่มีเจตนาที่จะติดหัวรบนิวเคลียร์ก็ตาม