'เดนมาร์ก' ถือเป็นชาติแรกๆ ในทวีปยุโรป ที่ประกาศยกเลิกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายในประเทศ หลังจากฉีดวัคซีนให้กับประชาชนแล้วกว่า 80%

วันนี้ (10 ก.ย. 64) รัฐบาลเดนมาร์ก ประกาศยกเลิกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเป็นทางการ หลังจากที่บังคับใช้มาอย่างยาวนานถึง 548 วัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าขณะนี้ เดนมาร์กสามารถเอาชนะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้แล้ว

หลังจากนี้ ชาวเดนมาร์กสามารถกลับมาใช้ชีวิตกันได้ตามปกติอีกครั้ง โดยไม่ต้องถือเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนเพื่อเข้าสถานที่ต่างๆ เช่น สถานบันเทิงยามค่ำคืน

การยกเลิกมาตรการมีขึ้น หลังจากที่เดนมาร์กได้ดำเนินการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ครบ 2 โดส ให้กับประชาชน ที่มีอายุ 12 ปี ขึ้นไปแล้วกว่า 80% ของประชากรทั้งหมด ทำให้รัฐบาลเดนมาร์ก ประกาศเมื่อเที่ยงคืนของวันนี้ (10 ก.ย 64) ตามเวลาท้องถิ่น ว่า โควิด-19 ไม่ใช่ “โรควิกฤตทางสังคม” อีกต่อไป

ทั้งนี้ เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา นายแมกนัส ฮิวนิเก (Magnus Heunicke) รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของเดนมาร์ก ประกาศว่า ขณะนี้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดเอาไว้ได้แล้ว แต่รัฐบาลยังคงเฝ้าระวัง และจะดำเนินการตามความจำเป็น หากสถานการณ์เลวร้ายลง

นับตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา ชาวเดนมาร์กไม่ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยบนรถโดยสารสาธารณะแล้ว และ วันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา บรรดาสถานบันเทิงยามค่ำคืน ก็กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง และยังยกเลิก การจำกัดการรวมกลุ่มของประชาชน ในที่สาธารณะ ประชาชนไม่จำเป็นต้องแสดงเอกสาร ก่อนเข้าใช้บริการร้านอาหาร หรือ ชมการแข่งขันฟุตบอลในสนาม ไปจนถึงการเข้าฟิตเนสและร้านทำผม

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีการบังคับให้สวมใส่หน้ากากอนามัยที่สนามบิน รวมถึง เมื่อเดินทางไปยังโรงพยาบาลอยู่ และยังคงแนะนำการเว้นระยะห่างทางสังคม และมีข้อจำกัดเรื่องการเข้าประเทศสำหรับผู้ที่ไม่ใช้พลเมืองของเดนมาร์ก