การปลดฟ้าผ่า ร.อ.ธรรมนัส พรมเผ่า ออกจาก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คีย์แมนคนสำคัญ และ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พ่วงด้วย ดร.นฤมล ภิญโญ รมช. แรงงาน ซึ่งทั้งสอง นับเป็นคนสำคัญ หรือ ลูกรักของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พี่ใหญ่ของกลุ่มบูรพาพยัคฆ์

ความสัมพันธ์ของนายกรัฐมนตรี กับ พล.อ.ประวิตร จะสั่นคลอนหรือไม่ หลังที่ได้พยายามประสานรอยร้าวที่เกิดขึ้นแต่ไม่เป็นผล และ นายกฯ ยังตัดสินใจปลดคนสนิท โดยไม่บอกกล่าวกัน

ต้องจับตาถึง เสถียรภาพของพรรคพลังประชารัฐที่จะได้รับแรงสะเทือนจากความเคลื่อนไหวในอนาคตของ ร.อ.ธรรมนัส ว่ามีมากน้อย แค่ไหน อย่างไร แรงสะเทือนครั้งนี้จะสร้าง รอยร้าว ต่อรัฐบาลภายใต้การนำ ของพล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ และ ความสัมพันธ์ของ 3 ป. จะคงแน่นแฟ้น เหนี่ยวแน่นเช่นเดิมหรือไม่

ส่วนท่าทีวันนี้ สื่อได้พบนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จังหวัดนนทบุรี ไปตรวจเยี่ยมมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดในโรงงาน ตามมาตรการ "Factory Sandbox" ก็เป็นการทำหน้าที่ตามปกติ สื่อมวลชน ดูอาการแล้ว ลีลาท่าทางท่านนายกฯจะผ่อนคลายมากกว่าช่วงสัปดาห์ทีผ่านมา มีการโบกไม้โบกมือ เดินพูดคุยทักทาย กับพนักงานของโรงงานที่ไปเยี่ยมอย่างเป็นกันเอง

ผู้สื่อข่าวถามว่า สบายใจขึ้นหรือไม่ หลังมีการปรับ 2 รัฐมนตรีออกตำแหน่ง ท่านนายกฯก็บอกว่า "สบายใจมาโดยตลอด" พอถามว่าต้องเคลียร์ใจกับพลเอกประวิตร หรือไม่ นายกรัฐมนตรีก็ถามกลับว่า "ทำไมหรอ..เคลียร์เรื่องอะไร" แล้วก็บอกให้ไปดูรัฐธรรมนูญ มาตรา 171 เอาเอง

เมื่อไปดูรัฐธรรมนูญ มาตรา 171 ก็จะเข้าใจของนัยยะของนายกรัฐมนตรี ที่จะพยายามจะย้ำว่าเป็นอำนาจของตนเองในปลดรัฐมนตรี เพราะ มีการระบุชัดว่า "พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีตามที่นายกฯถวายคำแนะนำ" แต่ถ้าเป็นกรณีรัฐมนตรีลาออก จะเป็นการสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามมาตรา 170 วงเล็บ 2 ที่ระบุว่า รัฐมนตรีสิ้นสุดเฉพาะตัว เมื่อลาออก

ซึ่งก็เป็นที่ชัดเจนว่า กรณีของ 2 รัฐมนตรี เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 171 คือปลดออก ไม่ใช่ลาออก อย่างที่ ร้อยเอกธรรมนัส แถลง

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/X5JpF0fSbt0