รวมไฮไลต์อภิปรายไม่ไว้วางใจวันสุดท้าย ก่อนลงมติ พรุ่งนี้

เลือกตั้งและการเมือง

รวมไฮไลต์อภิปรายไม่ไว้วางใจวันสุดท้าย ก่อนลงมติ พรุ่งนี้

โดย panwilai_c

3 ก.ย. 2564

45 views

ไฮไลต์และบรรยากาศการประชุมสภาผู้แทนราษฏรเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ ใช้เวลา 4 วันให้พรรคร่วมฝ่ายค้านอภิปราย 6 รัฐมนตรี ก่อนจะลงมติในวันพรุ่งนี้ (4 ก.ย.64) เวลา 10.00 น. ท่ามกลางการจับตาผลการลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ที่วันนี้ (3 ก.ย. 64) ถือว่ากลบทุกกระแสข่าว หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกมายืนยันความสัมพันธ์พี่น้อง 3 ป.ยังรักกันดี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เรียกประชุม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ย้ำให้โหวตไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และเป็นกาวใจให้เคลียร์กับ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า จบปัญหาที่สั่นคลอนเก้าอี้ตลอดหลายวันที่ผ่านมา


การประชุม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่ชั้น 6 อาคารรัฐสภา ใช้เวลาเพียง 5 นาที หลัง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เข้าประชุม พร้อมกับ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร รวมทั้ง นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน และนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่มีข่าวว่าเป็นกลุ่ม 3 ช.หรือ 3 รัฐมนตรีช่วย ส่วนในห้องประชุมมีแกนนำพรรค และรัฐมนตรี 4 ว. ที่มีข่าวว่าสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทั้งนายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายอนุชา นาคาศัย ยกเว้นนายสุชาติ ชมกลิ่น ที่อยู่ระหว่างการอภิปรายในสภา รวมถึงนายสันติ พร้อมพัฒน์ อยู่กันพร้อมหน้า


พล.อ.ประวิตร ยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐ เป็นเอกภาพ ขอให้ส.ส.สนับสนุนนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีของพรรค และย้ำกับสื่อมวลชนว่า ยังรักกันดีกับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ไปไหนต้องไปด้วยกัน


ขณะที่ร้อยเอกธรรมนัส ไม่ตอบคำถามนักข่าว หลังประชุมเสร็จก็ออกจากรัฐสภาไปพร้อมพลเอกประวิตร ซึ่งมีรายงานข่าวว่า ทั้งหมดเดินทางไปที่มูลนิธิป่ารอยต่อ ซึ่งไม่นาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เดินทางออกจากอาคารรัฐสภา ตามไปโดยตอบนักข่าวเพียงสั้นๆว่าเรื่องทั้งหมดจะเคลียร์กับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เพียงคนเดียว พร้อมยืนยันเรื่องกระเป๋าที่เป็นข่าวว่าเป็นกระเป๋าเอกสาร ไม่ใช่กระเป๋าขนเงินที่ถูกกล่าวหาว่านำมาแจกส.ส.คนละ 5 ล้าน จากนั้นทีมงานนายกรัฐมนตรี ลากกระเป๋าเอกสารใบสีดำมายืนยันกับนักข่าว


โดยมีรายงานข่าวว่าการพบกันที่มูลนิธิป่ารอยต่อ พี่น้อง 3 ป.ที่ประกอบด้วย พลเอกประวิตร พลเอกอนุพงษ์ และ พลเอกประยุทธ์ ได้ปรับความเข้าใจกันและกอดคอกันชื่นมื่น ยืนยันความสัมพันธ์ที่รักกันดี ส่วนกรณีของร้อยเอกธรรมนัส ได้ยกมือไหว้ พลเอกประยุทธ์ และทำความเข้าใจเรื่องปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐ ที่นายกรัฐมนตรี บอกว่า ต่อไปจะมาพบกับ ส.ส.มากขึ้น เป็นไปตามที่ให้สัมภาษณ์ไว้ในตอนเช้าว่า ยังรักกันดีกับพี่น้อง 3 ป.


ขณะที่นายวิรัช ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ยืนยันว่า ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ พร้อมโหวตให้นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำรัฐบาล แต่รัฐมนตรีคนอื่นอาจคะแนนไม่เท่ากัน โดยจากจำนวนเสียงส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ที่มีอยู่ 271 เสียง มี ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ และภูมิใจไทย 2 คนต้องกักตัวเพราะโควิด จะเหลือ 269 เสียง ตัดประธานรองประธานสภา และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ จากพรรคเศรษฐกิจใหม่ จะมีคะแนนที่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี อย่างน้อย 265 เสียงแน่นอน


สำหรับเสียงของสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร ที่มีอยู่ในสภา เวลานี้ มีจำนวน 482 เสียง ตามรัฐธรรมนูญ รัฐมนตรีต้องผ่านการไว้วางใจ ด้วยเสี่ยงกว่ากึ่งหนึ่ง คือ 241 เสียง โดยเสียงของ พรรคร่วมฝ่ายค้าน มี 211 เสียง เสียงพรรคร่วมรัฐบาล 271 เสียง ที่คาดว่าจะไว้วางใจนายกรัฐมนตรี อย่างต่ำ 265 เสียงจาก 271 เสียงคาดว่าจะมีเพิ่มจากฝ่ายค้านอีกไม่ต่ำกว่า 9 เสียง จากพรรคก้าวไกลที่ย้ายไปภูมิใจไทย 5 เสียง พรรคประชาชาติ 1 เสียง พรรคเพื่อชาติ 2 เสียง และพรรคเพื่อไทย 1 เสียง จึงคาดว่าจะมีคะแนนโหวตให้พลเอก ประยุทธ์ ไม่ต่ำกว่า






สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจวันนี้มุ่งไปที่ 4 รัฐมนตรีที่เหลือ ทั้งนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส แต่ไฮไลต์ อยู่ที่การอภิปรายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยนายมงคลกิตต์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ที่กล่าวถึงการติดเชื้อโควิดจากคลัสเตอร์ทองหล่อ จนนายศักดิ์สยาม ต้องยืนยันว่า เป็นคนโสด ที่ดื่มนมเย็น จะเสเพลได้อย่างไร


ส่วนการอภิปรายสรุปโดยนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวย้ำถึงข้อกล่าวหาอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีไร้ภูมิปัญญา ไร้วิสัยทัศน์ และไร้ความรับผิดชอบ ในการบริหารโควิด-19 ล้มเหลว และสร้างความผิดหวังให้กับประชาชน และสภาผู้แทนราษฏร กรณีมีข่าวการแจกเงิน เพื่อให้ลงมติไว้วางใจ ถือเป็นการทำลายศักดิ์ศรีประชาธิปไตย


ขณะที่ก่อนหน้านั้นนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงต่อที่ประชุม ยืนยันเดินหน้าพัฒนาประเทศต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ แม้จะไม่มีใครรู้ว่าโรคโควิด-19 จะสิ้นสุดเมื่อใด แต่ก็เหมือนพายุฝน ที่เชื่อกันว่าฟ้าหลังฝนย่อสดใสเสมอ และหวังให้คนไทยก้าวข้ามความลำบากวันนี้ไปพร้อมกับความรักความสามาคีของคนในชาติ ก่อนจะเดินทางกลับ และยืนยันว่าได้ชี้แจงไปหมดแล้ว ผลโหวตพรุ่งนี้จะห่วงอะไร สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม พร้อมเปิดกระเป๋าสีดำยืนยันว่าเป็นแค่เพียงเอกสาร

คุณอาจสนใจ

Related News