นายประเสริฐ จันทรรวงทอง แฉหลักฐานเงินส่วนต่างสั่งซื้อ 'ซิโนแวค' ถึง 2 พันล้าน วอนนายกฯ ชี้แจงเงินที่หายไป

วันนี้ (31 ส.ค.64) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย อภิปรายชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวของนายกรัฐมนตรี ในการบริหารจัดการสถานการณ์โควิดในทุกด้าน ทั้งการควบคุมการระบาดและป้องกันโรค ตั้งแต่ไม่เข้าร่วมโครงการโคแวกซ์

โดยพบว่ามีหนังสือสั่งการไปยัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ระบุถึงการไม่เข้าร่วมโครงการโคแวกซ์ เพราะให้นโยบายว่าวัคซีนเป็นสินค้าสาธารณะ อีกทั้งยังกีดดันวัคซีนทางเลือกโดยไม่อนุญาตให้ภาคเอกชนนำเข้ามาในราชอาณาจักร ทำให้ถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีการทุจริต มีผลประโยชน์ทับซ้อม เอื้อประโยชน์นายทุน เอาประโยชน์ส่วนตนเป็นที่ตั้งไม่คำนึงถึงชีวิตประชาชน เป็นการจัดซื้อที่มีพฤติกรรมปิดบังอำพราง เป็นวัคซีนสายสัมพันธ์แต่ด้อยประสิทธิภาพ ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มธุรกิจในประเทศไทย

นายประเสริฐ ได้นำเอกสารที่ระบุว่าได้มาจากข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข และเอกสารที่ระบุไว้ในบันทึกการประชุมของกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค มาประกอบการอภิปราย ชี้ให้เห็นว่า รัฐบาลมีมติครม.เพื่อจัดซื้อ วัคซีนซิโนแวค จำนวน 5 ครั้ง โดย ครม. อนุมัติวงเงินจัดซื้อที่ 17 เหรียญดอลลาห์สหรัฐต่อหนึ่งโดสทุกครั้ง

แต่พบว่าทุกครั้งบริษัทที่จำหน่ายวัคซีนให้นั้น ได้ลดราคาให้ต่อเนื่อง โดยครั้งที่ 2 ลดเหลือ 15 เหรียญดอลลาห์สหรัฐ ,ครั้งที่ 3 ลดเหลือ14 เหรียญดอลลาห์สหรัฐ, ครั้งที่ 4 เหลือ 9.5 เหรียญดอลลาห์สหรัฐ และ ครั้งที่5 เหลือ 9เหรียบดอลลาห์สหรัฐ เมื่อรวมราคาที่ครม. อนุมัติ คือ 331 ล้านดอลลาห์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินบาท คือ 10,846 ล้านบาท แต่ราคาที่จัดซื้ออยู่ที่ 267 ล้านดอลลาห์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทย 8,748 ล้านบาท ทำให้มีค่าส่วนต่างถึง 2,098 ล้านบาท

พลเอกประยุทธ์ ต้องชี้แจงว่าเงินทอน หรือค่าส่วนต่างหายไปไหน และขอให้นำเอกสารมาชี้แจงต่อสภาฯ ไม่เช่นนั้นจะถือว่าตั้งใจโกง

นายประเสริฐ กล่าวหาว่า พลเอกประยุทธ์และนายอนุทิน จงใจปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ไม่สามารถดำเนินการตามเป้าหมายการฉีดวัคซีนได้ ไม่ซื่อสัตย์สุจริตขาดความรอบคอบและระมัดระวัง ผิดพลาดล้มเหลวไม่เป็นไปตามมติครม. เมื่อวันที่ 2มีนาคม 2564 มีพฤติกรรมค้าความตายแสวงหาผลประโยชน์บนความทุกข์ประชาชน และกีดกันวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า ผูกขาดวัคซีนยี่ห้อเดียว เอื้อประโยชน์ให้เอกชน ทำให้วัคซีนขาดแคลน พลเอกประยุทธ์และนายอนุทินควรลาออกตามคำเรียกร้องของประชาชน