นอกจากวิกฤตเตียงแล้ว ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังเกิดวิกฤตรถพยาบาล ที่มีเสียงสะท้อนมาจากเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัย ที่ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ประสปอุบัติเหตุ หรือบาดเจ็บ แต่เนื่องจากโรงพยาบาลเต็ม และรถพยาบาลไม่เพียงพอ ทำให้ต้องรอรถพยาบาลมารับช้ากว่ากำหนด อาจเสี่ยงต่อความปลอดภัยในชีวิต และเป็นปัญหาหนึ่งที่กระทบในสถานการณ์โควิด-19 ด้วย

เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าปฐมพยาบาล ชายเร่ร่อน ที่นอนบาดเจ็บ อยู่ริมฟุตบาท ถนนอาจณรงค์ ซึ่งตำรวจ สน.ท่าเรือ ได้แจ้งเหตุให้มูลนิธิร่วมกตัญญู มาตรวจสอบ เนื่องจากไม่ทราบว่าชายเร่ร่อน รายนี้ติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่

ซึ่งเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ในชุดพีพีอี ป้องกันโรคโควิด-19 ได้เช็ดบาดแผล พร้อมวัดอุณหภูมิ พบมีไข้ 37.5 และ ค่าออกซิเจน ลดลงในระดับ 81 ทำให้ต้องนำเครื่องออกซิเจน มาให้กับชายเร่ร่อนคนนี้ ในระหว่างที่รอรถพยาบาลที่ทาง ตำรวจ สน.ท่าเรือ ได้แจ้งศูนย์เอราวัณ ตั้งแต่เวลา 16.00 น. และ มูลนิธิร่วมกตัญญู ได้วิทยุประสานรถพยาบาล แต่ต้องใช้เวลา กว่า 2 ชั่วโมง ทางศูนย์เอราวัณ แจ้งว่า ยังไม่สามารถหาโรงพยาบาลรับผู้ป่วยที่ประสบอุบัติเหตุได้ สะท้อนถึงภาวะวิกฤตรถพยาบาล ที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกัตัญญู ยอมรับว่า ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่มีผู้ป่วยโควิด-19 มากกว่า 1 หมื่นคน ต่อวัน และกว่า 2 หมื่นคน ใน 2 วันที่ผ่านมา พบปัญญหาเรื่องต้องรอรถพยาบาล นานกว่าเวลาปกติ ที่หากมีผู้ประสปอุบัติเหตุ หน่วยกู้ภัย พบว่า ต้องรอรถพยาบาลนานกว่า 1 ชั่วโมง เนื่องจากรถพยาบาลต้องนำไปรับผู้ป่วย อาจทำให้เพียงพอมารับผู้ป่วยที่ประสบอุบัติเหตุ และไม่มีโรงพยาบาลที่รับผู้ป่วยได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัย เข้าใจ แต่หากปล่อยให้ผู้ป่วยนอนรออยู่ริมถนน นานกว่า 2 ชั่วโมง อาจไม่เป็นผลดีต่อสถานการณ์โควิด-19 จึงคาดหวังให้มองเห็นปัญหานี้แล้วช่วยกันแก้ไข

หัวหน้าชุดฉุกเฉิน ของมูลนิธิร่วมกตัญญู เปิดเผยว่า ปัญาหนึ่งที่เจ้าหน้าที่พบ หากศูนย์เอราวัณ ไม่มีโรงพยาบาลให้ไปส่งได้ ทำให้ทางอาสากู้ภัย ไม่สามารถนำผู้ป่วยไปส่งที่โรงพยาบาลได้เอง และเมื่อไปแล้ว ทางโรงพยาบาลไม่สามารถรับผู้ป่วยได้ ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงกับเจ้าหน้าที่ที่นำผู้ป่วยที่ยังไม่รู้ผลตรวจโควิด ไปส่งแล้วต้องรอเวลานานเช่นกัน ส่วนที่มีการเสนอว่า กรณีพบผู้บาดเจ็บริมถนน แล้วต้องรอรถพยาบาล จะให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิใช้การตรวจ Antigen test kit ตรวจให้ก่อนดีหรือไม่ เพื่อลดความเสี่ยง ทางหัวหน้าชุด เห็นว่า อาสากู้ภัย ไม่ได้รับอนุญาตให้เป็นเรื่องยาก จึงอาจเป็นไปได้ในเวลานี้

หลังจากรอเป็นเวลา 2 ชั่วโมง ทางศูนย์เอราวัณแจ้งว่ากำลังหาโรงพยาบาลให้ เบื้องต้นโรงพยาบาลใกล้เรียงไม่สามารถรับได้ เพราะมีคนไข้เต็ม จึงให้ทางตำรวจ สน.ท่าเรือ ออกไปส่งตัว ให้ทางมูลนิธินำตัวส่งโรงพบาบาลได้ แต่ทางศูนย์เอราวัณ ติดต่อกลับมาในเวลา 18.30 น. ว่าติดต่อโรงพยาบาลกลางให้นำส่งโรงพยาบาลกลางได้แล้ว ซึ่งกรณีนี้ผู้ป่วยเป็นชายเร่ร่อน ที่ไม่มีบัตรประชาชน ก็เป็นอุปสรรคหนึ่งในการเข้าถึงการรักษาด้วย