สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศ วันนี้ทำสถิติผู้ติดเชื้อรายวันสูงเกิน 20,000 คน เป็นวันที่ 2 ขณะที่ล่าสุด ศบค. ได้แถลงเปิดตัว เว็บไซต์ Koncovid.com เพื่อใช้ในการค้นหาสถานที่ตรวจโควิด-19 ทั่วประเทศ ใช้งานง่ายเพียงพิมพ์รหัสไปรษณีย์ ก็จะปรากฏสถานที่ตรวจใกล้บ้าน

ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้อยู่ที่ 20,920 คน ทำสถิติสูงเกิน2หมื่นคนต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 20,658 คน ผู้ติดเชื้อจากเรือนจำที่ต้องขัง 262 คน ยอดติดเชื้อสะสม 693,305 คน รักษาตัวอยู่ 213,910 คน อาการหนัก 4,993 คน ใส่เครื่องช่วยหายใจ 1,058 คน ขณะที่มีผู้เสียชีวิตอีก 160 คน รวมสะสม 5,663 คน

พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศบค. ระบุว่า ขณะนี้ ศบค.ได้ร่วมกับ Tech For Thailand รวบรวมสถานที่ตรวจโควิด-19 ที่ยังให้บริการ โดยสามารถเข้าเว็บไซต์ Koncovid.com เพื่อค้นหาสถานที่ตรวจโควิด-19 ทั่วประเทศ ใช้งานได้ง่ายเพียงพิมพ์รหัสไปรษณีย์ ก็จะปรากฏสถานที่ตรวจใกล้บ้าน หรือกดไปที่จุดสีแต่ละจุดในแผนที่ก็จะแสดงข้อมูลของจุดตรวจ เช่น สีแดงในบางแห่งอาจเป็นเป็นศูนย์หรือแล็บงานวิจัยที่ไม่ได้เปิดให้ประชาชนเข้าไปตรวจได้ ส่วนสีเขียวเป็นโรงพยาบาลของภาครัฐ เป็นต้น

นอกจากนี้ยังย้ำว่า สายด่วน 1330 ของสปสช.ยังคงเป็นเบอร์หลัก ที่ใช้จัดการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 เพื่อนำเข้าระบบ ส่วนเบอร์โทรศัพท์ 1668 และ 1669 เป็นสายด่วน เพื่อช่วยชีวิต ในผู้ป่วยหนักหรือผู้ป่วยวิกฤติ ในระดับสีแดง

สำหรับมาตการสนับสนุนการรักษาที่บ้าน ขณะนี้กรมควบคุมโรคได้จัดทีมซูเปอร์ไรเดอร์ จิตอาสากว่า 60 คน จัดส่งอุปกรณ์และยาสำหรับผู้ป่วย home isolation ไปแล้วประมาณ 100 คน และจะดำเนินการต่อเนื่อง

นอกจากนี้ วันนี้ ยังมีการเปิดตัวตำรับยาฟาวิพิราเวียร์สำหรับเด็ก โดยศ.นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พร้อมด้วยทีมแพทย์จากโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริษัท เมดิกา อินโนวา จำกัด เปิดเผยว่าขณะนี้ได้ร่วมกันพัฒนา และคิดค้นสูตร "ตำรับยาน้ำเชื่อมฟาวิพิราเวียร์" ต้านเชื้อไวรัสสำหรับสำหรับเด็กและผู้ป่วย ที่ไม่สามารถรับประทานยาเม็ดได้สำเร็จ และนำมาใช้ในโรงพยาบาลจุฬาภรณ์แล้ว โดยปัจจุบันผู้ป่วยโควิด-19 ที่พบ เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ในอัตราส่วนมากถึง 12% จากผู้ป่วยทั้งหมด และยังพบว่า ไวรัสที่กลายพันธุ์ ทำให้เด็กมีอาการเชื้อลงปอดเพิ่มมากขึ้น จากเด็กมีการติดเชื้อ 50% เพิ่มเป็น 80-90% แต่จากการทดลองใช้ในกลุ่มผู้ป่วยเด็กอายุ 8 เดือน ถึง 5 ปี จำนวน 12 คน พบว่าตอบสนองต่อการรักษาได้ดี และไม่พบผลข้างเคียงร้ายแรง

ส่วนกรณีไฟเซอร์ล็อตบริจาคจากสหรัฐ ล่าสุดนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผย ว่าวัคซีนไฟเซอร์ชุดแรกที่จัดสรร ถูกส่งถึงโรงพยาบาล 69 แห่งใน 10 จังหวัดแล้ว ตั้งแต่เมื่อวานนี้และเริ่มฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าแล้วตั้งแต่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าฉีดให้ครบภายในเดือนนี้

สำหรับการคาดการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อในปัจจุบันนั้น ทางศาสตราจารย์ วรศักดิ์ กนกนุกุลชัย ราชบัณฑิต ได้คาดการณ์ว่า ปัจจุบันอาจมีผู้ติดเชื้อเงียบ อยู่ถึง 109,000 คน ซึ่งจากตัวเลขการพยากรณ์จะพบว่าผู้ติดเชื้อจริง ที่พบในแต่ละวันจะสูงกว่าตัวเลขที่พยากรณ์ไว้ เช่น 2 วันที่ผ่านมานี้ มีการพยากรณ์ไว้ที่ราว 19,000 คน แต่พบจริง มากกว่า 20,000 คนทั้ง 2 วัน และพรุ่งนี้พยากรณ์ถึงผู้ติดเชื้อสูงถึง 20,646 คน ทำให้ต้องจับตาสถานการณ์วันพรุ่งนี้

ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อในรอบสัปดาห์ยังคงสูงขึ้น โดยคาดการณ์ว่ายังไม่ถึงจุดหักเห ที่ผู้ติดเชื้อจะคงที่และลดลงภายในสัปดาห์นี้ รวมทั้งยังไม่ถึงจุดที่จะพบผู้ติดเชื้อสูงสุดจริงในเร็วๆ นี้อีกด้วย

ส่วนความคืบหน้ากรณีที่ สามี น.ส.กษมล สิงห์ทองรัตน์ อายุ 28 ปี ที่นนทบุรี เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา ซึ่งทางโรงพยาบาลแจ้งว่าเสียชีวิตจาก "ภาวะสมองตาย" แต่สามีและญาติยังติดใจ ไม่เผาศพพร้อมประสานทนายความจิตอาสา ให้ช่วยเกรงว่าจะไม่ได้รับความความเป็นธรรมโดยจะผ่าชันสูตรในวันพรุ่งนี้ เพื่อหาสาเหตุในการเสียชีวิตว่าเกิดจากการฉีดวัคซีนหรือไม่ เนื่องจากเป็นการเสียชีวิตกะทันหันหลังฉีดวัคซีนได้ เพียง 16วันเท่านั้น