พท.ตั้งโต๊ะ แจงปมงบกลาง ยันให้แก้ปัญหาโควิด ไม่ใช่เกมแบ่งผลประโยชน์กับรัฐบาล

เลือกตั้งและการเมือง

พท.ตั้งโต๊ะ แจงปมงบกลาง ยันให้แก้ปัญหาโควิด ไม่ใช่เกมแบ่งผลประโยชน์กับรัฐบาล

โดย kodchaporn_j

4 ส.ค. 2564

61 views

หลังจากพรรคก้าวไกล แสดงความไม่พอใจที่กรรมาธิการงบประมาณของพรรคเพื่อไทย ทำให้วันนี้พรรคเพื่อไทย ต้องแถลงยืนยัน ทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง และยืนยันว่าพร้อมตรวจสอบการใช้งบกลาง กว่า 16,000 ล้าน ที่มีเป้าหมายให้รัฐบาล นำไปใช้แก้ไขโควิด-19


ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ชี้แจงกรณีที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ในส่วนพรรคเพื่อไทย เห็นด้วยกับกรรมาธิการเสียงข้างมากให้แปรญัตติงบ 16,300 ล้านบาท ไปไว้ที่งบกลาง เพื่อให้นำไปใช้ในการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ที่รุนแรงขึ้น และเพื่อไม่ให้ประชาชนแบกรับภาระหนี้ ที่อาจจะเพิ่มขึ้นจากการกู้เงินของรัฐบาล


และเป็นการตัดสินใจโดยสุจริต ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และกรรมาธิการของพรรคเพื่อไทย ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ในบัญชีแนบท้ายของงบประมาณว่าเงินงบประมาณส่วนนี้ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง ตรงกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ โปร่งใส ตรวจสอบได้ และพรรคเพื่อไทยในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ได้ยืนยันที่จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจพลเอกประยุทธ์และพวกเร็วๆ นี้


นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รองประธานคณะกรรมาธิการ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเห็นต่างกับพรรคก้าวไกลที่เสนอให้นำงบจำนวนนี้ ไปไว้ในส่วนอื่น เพราะเป็นข้อเสนอที่แก้ปัญหาไม่ตรงจุด ตามข้อจำกัดของวิธีการงบประมาณ คือ แม้เราจะนำเงินไปใส่ในหน่วยงานต่างๆ ที่ก้าวไกงสนอ ก็ไม่สามารถนำเงินไปใช้ได้ทันที


นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส. น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ข้อสงสัยที่ว่าพรรคเพื่อไทยจะเอางบประมาณไปใส่งบกลางให้ พลเอกประยุทธ์เอาไปใช้ เสมือนตีเชคเปล่า ใช้ตามอำเภอใจ เอาไปซื้อกระสุนยางมายิงพี่น้องประชาชนก็ได้นั้น เป็นข้อหาที่ค่อนข้างรุนแรงเป็นอย่างมาก ซึ่งไม่เหมือนกับกรณีในปี 2564 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เสนอของบกลางในการซื้ออาวุธควบคุมฝูงชนนั้น ก็เป็นงบกลางในหมวดอื่นในกรณีสำรองฉุกเฉิน และไม่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาของ กมธ.ชุดนี้


ขณะที่พรรคก้าวไกล ยืนยันชัดเจนว่า ไม่มีเห็นด้วยกับการลงมติของพรรคเพื่อไทย เช่นที่ นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้แสดงจุดยืนในการแปรงบ ประมาณ 16,000 ล้านบาท ไปยังกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเป็นการชดเชยรายได้ภาษีที่ดินที่หายไปจากการลดอัตราภาษีที่ดินจัดเก็บปี 63- 64 มูลค่า 13,200 ล้านบาท


ส่วนที่เหลือจะไปที่กองทุนหลักประกันสุขภาพ 860 ล้านบาท ,กองทุนเสมอภาคเพื่อการศึกษา เพื่อจัดสรรไปให้เด็กที่กำลังจะหลุดออกจากระบบ 700,000 คน 631 ล้านบาท ไปที่กองทุนการออมแห่งชาติ 460 ล้านบาท และไปที่กองทุนฟื้นฟูเกษตรกร กองทุนฟื้นฟูบทบาทสตรี ดีกว่าไปให้เป็นงบกลาง ที่ตรวจสอบยาก


พรรคก้าวไกล เห็นว่า ที่ผ่านมาฝ่ายค้านไม่สามารถตรวจสอบงบกลางได้ และเป็นการให้อำนาจไปที่ พล.อ. ประยุทธ์ แม้จะอ้างว่าเพื่อสถานการณ์โควิดก็ตาม แต่การตรวจสอบไม่ได้เป็นสิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง

คุณอาจสนใจ

Related News