สถานการณ์ผู้ติดเชื้อภายในประเทศ ที่กลับมาทำสถิติสูงสุดรายวันอีกครั้ง นับตั้งแต่มีการเเพร่ระบาดในประเทศ มากถึง 20,200 คน เทียบแล้วค่าเฉลี่ยต่อประชากร 1 ล้านคน มากกว่าในวันที่พีคที่สุดของอินเดียแล้วในขณะนี้

ขณะเดียวกันวันนี้ได้มีการเปิดเผยเอกสารที่เชื่อว่าน่าจะเป็นการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งพบว่าน้อยกว่าโควตาที่ควรได้รับการจัดสรร ทำให้มีการตั้งคำถามจากภาคสังคมว่าวัคซีนที่เหลือถูกจัดสรรไปที่ใด

ยอดผู้ติดเชื้อวันนี้อยู่ที่ 20,200 คน ทำสถิติผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดอีกครั้ง นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาด แบ่งเป็น ผู้ติดเชื้อใหม่ 20,013 คน ผู้ติดเชื้อจากเรือนจำที่ต้องขัง 187 คน จนถึงขณะนี้ไทยมียอดผู้ป่วยสะสมรวมอยู่ที่ 672,385 คน รักษาตัวอยู่ 211,076 คน

ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทั่วไป 71,946 คน อยู่ในโรงพยาบาลสนาม 139,130 คน โดยเป็นผู้ป่วยอาการหนัก 4,910 คน อาการหนักต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 1,035 คน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิต 188 คน เป็นนิวไฮใหม่เช่นกัน จนถึงขณะนี้รวมสะสม 5,503 คน

จากจำนวนผู้ติดเชื้อ 20,200 คนต่อวัน หากคิดเป็นค่าเฉลี่ยเท่ากับว่า ในประชากร 1 ล้านคน จะมีผู้ติดเชื้อเฉลี่ย 288.5 คน มากกว่าจำนวนสูงสุดรายวันของอินเดียไปแล้ว ที่เฉลี่ย 283.5 คน ซึ่งมีการคาดการณ์ไว้ว่านี่ยังไม่ใช่จำนวนสูงสุดรายวันของไทย เนื่องจากอาจมีผู้ติดเชื้อเงียบ อยู่อีกอย่างน้อย 1 แสนคนที่ยังไม่ได้รับการตรวจยืนยัน

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. ได้เรียกประชุมคลินิกเอกชนกว่า 1,000 แห่งชี้แจงหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติเพื่อร่วมดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มสีเขียวที่บ้าน และการตรวจโควิดด้วยชุดตรวจ ATK เพื่อแก้วิกฤตผู้ป่วยจำนวนมากที่ต้อง home isolation โดย สปสช.จะเหมาจ่ายค่ารักษา 3,000 บาทต่อคน

ขณะที่คณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. เตือนประชาชนอย่าซื้อยาฟาวิพิราเวียร์ มารับประทานเอง เพราะอาจได้ยาปลอม หรือไม่ได้มาตรฐานและอาจมีสารปนเปื้อน เป็นอันตรายถึงชีวิต โดยผู้ป่วยอาจไม่ได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องในการใช้ยา ซึ่งยาฟาวิพิราเวียร์ เป็นยาควบคุมพิเศษ ต้องสั่งจ่าย และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์

ส่วนการตั้งข้อสังเกตกรณีการจัดสรรวัคซีนจากไฟเซอร์ ให้กับบุคลากรด่านหน้า ว่ามีการจัดสรรเพียง 422,800 โดส หายไปกว่า 2 แสนโดสไม่ครบตามโควต้าที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้ ที่ 700,000 โดส

ล่าสุดทางกรมควบคุมโรค ยอมรับว่าเป็นเอกสารจริง โดยชี้แจงว่า วัคซีนล็อตนี้ จะถูกส่งไปในพื้นที่กรุงเทพจำนวน 120,000 โดส และเป็นพื้นที่ต่างจังหวัดรวมทั้งประเทศ 322,800 โดส ซึ่งยอดนี้ถือเป็นยอดวัคซีนที่มีการจัดส่งในงวดแรกให้แต่ละจังหวัดคิดเป็นประมาณ ร้อยละ 50-75 ของจำนวนวัคซีนที่แต่ละพื้นที่จะได้รับ

ส่วนของยอดวัคซีนที่เหลือ จำนวน 257,200 โดสจากยอดรวมทั้งหมด 700,000 โดสยังอยู่ในคลัง จัดเก็บของบริษัท เพื่อสำรองไว้สำหรับ บุคลากรใหม่ หรือ บุคลากรที่รายชื่อตกหล่น ตามที่จังหวัดจะแจ้งเข้ามาเพิ่ม และนอกจากนี้ ยังเป็นวัคซีนที่เตรียมไว้ให้กับบุคลากรกลุ่มที่ต้องได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 ใน 3 สัปดาห์ต่อจากนี้