วันนี้( 3 สิงหาคม 2564) ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานมีพ่อค้าแม่ค้ากว่า 200 คน เดินทางมาที่วัดเทพชุมนุม ตำบลบ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนายพงศธร สุวรรณรักษา หรือ ทนายอาร์ม ทนายชาวบ้านชื่อดังของจังหวัดสงขลา พร้อมมีการชูป้ายคัดค้านการห้ามขายของภายในวัด โดยมีใจความว่า พวกเราได้ชายคาวัดทำหาทำมาหากิน วัดได้ค่าเช่า ไปบำรุงวัดวัดเพิ่งบ้าน บ้านเพิ่งวัด วัดอื่นตั้งโรงทานแต่วัดเทพชุมนุม.... โควิดว่าร้าย แต่สำนักพุทธร้ายกว่า โปรดสงสารพวกเราด้วยพวกเราไม่มีที่ทำกิน ขอความเมตตาธรรมจากวัดและสำนักพุทธด้วย โควิดหากินลำบากทุกคนกำลังอดตาย เราเป็นขุมชนรอบวัด วัดอยู่ในชุมชน เอาคนนอกมาหากินฯลฯ

ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากชาวบ้านพื้นที่รอบวัดเทพชุมนุม ได้จัดทำตลาดเล็กๆขึ้นมา เมื่อปี 2542 ประมาณเกือบ 20 ปี มีการแชร์จ่ายค่าเช่าให้วัดเดือนละ 27,000 บาท รวมทั้งจ่ายค่าไฟให้วัดอีก 3,000 บาท รวมเบ็ดเสร็จ 30,000 บาทเพื่อให้วัดนำไปใช้จ่าย ในกิจจำเป็นของวัด ต่อมาสำนักพุทธเข้ามาให้ไปทำสัญญาเช่ากับสำนักพุทธที่เขาและให้จ่ายค่าเช่าโดยตรงกับสำนักพุทธ

ต่อมามีการเปิดตลาดนัดใกล้กลับวัดเทพชุมนุมมีการอ้างชื่อสำนักพุทธและกรรมการวัดบีบให้มีการยกเลิกสัญญากับพ่อค้าแม่ค้าทั้งหมด ให้ย้ายไปที่ตลาดสดแห่งใหม่ ส่งผลให้ชาวบ้านชุมชนรอบวัดได้รับความยากลำบาก ไม่สามารถไปจับจ่ายขายของที่ตลาดสดแห่งใหม่ได้ซึ่งตลาดดังกล่าวอยู่ไกล จึงได้ส่งเรื่องร้องเรียนไปยังทนายให้ช่วยเหลือชาวบ้านรอบๆวัดและพ่อค้าแม่ค้าชุมชน

ทางด้าน นายวิวัฒน์ วันกุมภา ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดสงขลา ชี้แจงปัญหาที่เกิดขึ้นว่า ทางสำนักพุทธได้บอกยกเลิก สัญญาด้วยวาจาระหว่างแม่ค้าในตลาดวัดเทพชุมนุมมาก่อนหน้า 1 ปี จนทั้งหมดสัญญาเมื่อสิ้นเดือนกรกฎาคม สาเหตุเนื่องจากวัดจะนำที่ดินไปสร้างอาคาร ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของวัดตัวเองยังไม่ทราบรายละเอียดเพราะเพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง

ส่วนด้านทนาย พงศธร สุวรรณรักษา กล่าวว่า วันนี้ได้มีการเจรจาระหว่างชาวบ้านกับสำนักพุทธซึ่งวันนี้แม่ค้าได้เตรียมข้าวของมาค้าขาย ขอให้เปิดตลาดวันนี้เป็นสุดท้าย เพื่อพ่อค้าแม่ค้าจะได้ระบายของ ทางสำนักพุทธก็อนุญาติ จนสร้างความดีใจให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้า“สงขลา” พ่อค้า-แม่ค้าตลาดวัดเทพฯ รวมตัวประท้วงสำนักพุทธฯและกรรมการวัด หลังให้ย้ายไปตลาดสดแห่งใหม่