รอง ผบช.น. แจง ภาพจนท.ถือปืนจ่อหัว เป็นยุทธวิถี 'cover and contact' ตามมาตรฐานสากล

เลือกตั้งและการเมือง

รอง ผบช.น. แจง ภาพจนท.ถือปืนจ่อหัว เป็นยุทธวิถี 'cover and contact' ตามมาตรฐานสากล

โดย sujira_s

2 ส.ค. 2564

65 views

จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (1 ส.ค. 64) มีการชุมนุมกันของกลุ่มและกลุ่มผู้ชุมนุมอื่นๆ หลายกลุ่มทั่วพื้นที่กรุงเทพฯก่อนที่จะมีการปะทะกันระหว่างตำรวจกองร้อยควบคุมฝูงชน และกลุ่มผู้ชุมนุมที่ไม่ยอมเดินทางกลับบ้านหลังประกาศยุติการชุมนุม จนทำให้สถานการณ์ยืดเยื้อไปจนถึงช่วงค่ำ ทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและกลุ่มผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บและมีการควบคุมตัวกลุ่มผู้ชุมนุมไปเป็นจำนวนมาก


พลตำรวจตรี ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะโฆษก บชน. ระบุว่า เบื้องต้นขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมผู้ชุมนุมได้จากที่เกิดเหตุ และบริเวณใกล้เคียง รวมถึงในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี 10 คน และเมื่อคืนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ร่วมชุมนุมได้อีก 1 คนในบริเวณพื้นที่การชุมนุม เนื่องจากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน


โดยนำตัวผู้ต้องหาทุกคนไปควบคุมตัวไว้ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 จังหวัดปทุมธานี และที่ห้องควบคุมผู้ต้องหากองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กรุงเทพมหานคร โดยขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้ต้องหาที่สามารถจับกุมตัว ได้ภาพการสอบสวนเสร็จสิ้นภายในวันนี้ จะมีการฝากขังผ่านระบบ video conference กลับศาลทันที แต่หากไม่ทันก็จะเลื่อนออกไปเป็นวันพรุ่งนี้ ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน พรบ.โรคติดต่อ พรบ.จราจรทางบก และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีกหลายข้อหา ซึ่งแตกต่างกันออกไปตามแล้วแต่กรณี


สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่เมื่อวานนี้ มีจำนวน 13 นาย ส่วนใหญ่เป็นการบาดเจ็บจากการถูกขว้างปาสิ่งของของประทัดจากกลุ่มผู้ชุมนุม รวมถึงการปะทะระหว่างการผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ ทั้งนี้ยืนยันว่าการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นไปตามขั้นตอน และยุทธวิธีในระดับสากล ซึ่งเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก ซึ่งจากภาพคลิปวีดีโอ และภาพนิ่งตำรวจมีหลักฐานยืนยันด้วยว่า กลุ่มผู้ชุมนุมได้ทำการยั่วยุทำลายทรัพย์สินของราชการและลุกลามเข้ามาในพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ก่อน จึงจำเป็นต้องปฏิบัติตามขั้นตอน


ทั้งนี้ จากการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่า รูปแบบของกลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อวานนี้ เป็นการรวมตัวของกลุ่มผู้ชุมนุมหลายกลุ่มหรือที่เรียกว่าแม่น้ำหลายสาย ประกอบด้วยกลุ่มผู้ชุมนุมจากจังหวัดนนทบุรี นครปฐม กรุงเทพฯ เขตมีนบุรี และจุดอื่นๆทั่วกรุงเทพฯ หน้าเข้าสู่พื้นที่การชุมนุมที่นัดหมายไว้ ครั้งนี้สวัสดีตำรวจอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลและจะติดตามดำเนินคดีออกหมายเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาในภายหลัง ซึ่งต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง


ส่วนกรณีที่มีภาพของเจ้าหน้าที่กองร้อยควบคุมฝูงชนใช้อาวุธปืนลูกซองจ่อศีรษะผู้ชุมนุมที่กำลังขี่รถจักรยานยนต์บนถนนวิภาวดีรังสิต ยืนยันว่ากรณีดังกล่าว การชี้แจงว่า ลักษณะดังกล่าวเป็นรูปแบบทางยุทธวิธีที่เรียกว่า cover and contact ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่ต่างประเทศใช้ เนื่องจากสถานการณ์ดังกล่าวกลุ่มผู้ชุมนุมกระจายตัวออกจากพื้นที่ และเจ้าหน้าที่เห็นว่า ผู้ชุมนุมบางคนอาจเป็นภัยคุกคาม หรืออาจเกิดอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ได้ เจ้าหน้าที่ที่มีอาวุธปืนลูกซองทางยุทธวิธีซึ่งเป็นกระสุนยาง ซึ่งต้องใช้วิธีการตักเตือนให้ออกจากพื้นที่


เพราะเนื่องจากใกล้ช่วงเวลาห้ามออกนอกเคหสถาน โดยอาวุธปืนที่ใช้กองบัญชาการตำรวจนครบาลมีการติดสติ๊กเกอร์เป็นสัญลักษณ์ให้เห็นชัดเจนว่ากระสุนที่ใช้เป็นกระสุนยาง อีกครั้งเหตุการณ์ในภาพดังกล่าวไม่ได้มีการยิงผู้ชุมนุมที่ปรากฏในภาพ แต่ได้ทำการตักเตือนและไล่ให้ออกนอกพื้นที่ ทั้งนี้มองว่าลักษณะที่เกิดขึ้นในภาพไม่ได้เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ เพราะสถานการณ์ในขณะนั้นค่อนข้างเสี่ยงต่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ควบคุมสถานการณ์เนื่องจากก่อนหน้านั้นมีการใช้ความรุนแรงเกิดขึ้นจากกลุ่มผู้ชุมนุม


ส่วนกรณีที่ผู้ชุมนุมอ้างว่ามีการใช้กระสุนจริง ก็ยืนยันได้ว่ากองบัญชาการตำรวจนครบาลได้กำชับและตรวจสอบถ้าไม่ให้เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปควบคุมสถานการณ์นำอาวุธชนิดอื่นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลกำหนดเข้าไปใช้ในการปฏิบัติงานเด็ดขาด นอกจากก๊าซน้ำตา อาวุธปืนลูกซองกระสุนยาง ปืนยิงตะข่ายควบคุมตัว และโล่กระบอง


ส่วนการควบคุมการชุมนุมในวันเสาร์ที่จะถึงนี้กองบัญชาการตำรวจนครบาลอยู่ระหว่างการหารือเพื่อหาแนวทางการป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีกส่วนจะใช้รูปแบบและยุทธวิธีใดนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้เพราะอยู่ระหว่างการหารือกันของแต่ละฝ่าย


คุณอาจสนใจ

Related News