สลด ชายวัย 52 ติดโควิด รอรถมารับไปรักษาที่บ้านเกิด 2 รอบ แต่รถไม่มา เครียดผูกคอตายบนดาดฟ้า

สังคม

สลด ชายวัย 52 ติดโควิด รอรถมารับไปรักษาที่บ้านเกิด 2 รอบ แต่รถไม่มา เครียดผูกคอตายบนดาดฟ้า

โดย thichaphat_d

31 ก.ค. 2564

174 views

วานนี้ (30 ก.ค.) เกิดเหตุสลดชายวัย 52 ปี ติดโควิด 19 ตัดสินใจผูกคอเสียชีวิตภายบนดาดฟ้าอพาร์ทเมนท์สูง 4 ชั้น แห่งหนึ่ง ซอยพุทธบูชา 37/1 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ เครียดรอรถมารับตัวกลับไปรักษาอาการป่วยโควิดที่บ้านเกิด จ.ตาก ถึง 2 รอบ แต่รถไม่มาจึงตัดสินใจคิดสั้น


นางวันเฉลิม อายุ 53 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า สามีทำงานอยู่บริษัทแห่งหนึ่ง สามีทราบว่าติดเชื้อโควิดเมื่อวันที่23 ก.ค. ขณะที่ตนเองเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงคุณจึงได้ทำการตรวจหาเชื้อวันที่ 24 ก.ค. ผลออกมาเป็นบวกติดโควิด ส่วนลูกชายผลเป็นลบ


โดยก่อนที่สามีจะไปตรวจหาเชื้อนั้น มีอาการเป็นไข้และไอ 2-3 วัน ได้หายาแก้ไข้แก้ไอมากินเอง แต่อาการไม่ทุเลาจึงพากันไปตรวจหาเชื้อด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit กระทั่งทราบว่าผลตรวจเบื้องต้นของตนกับสามีเป็นบวก


จากนั้นตนกับสามีแยกจากลูกชายย้ายห้องพักจากชั้น 4 มาอยู่ชั้น 3 เพื่อกักตัวอยู่ด้วยกันสองคนระหว่างรอรับการรักษา นอกจากนี้สามีได้ไปตรวจหาเชื้อซ้ำที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งผลยืนยันเป็นบวก ทางโรงพยาบาลให้ยาฟาวิพิราเวียร์ กลับมากินรักษาตามอาการ อยู่ที่ห้องเช่า ส่วนตนเองยังไม่ได้ตรวจซ้ำ


หลังจากที่สามีทราบว่าตัวเองติดเชื้อโควิด ได้ประสานกับหน่วยงานหนึ่งเพื่อให้มารับตัวส่งกลับไปรักษา รพ.สนาม ที่บ้านเกิด อ.อุ้มผาง จ.ตาก ติดต่อถึง 2 รอบ เสื้อผ้ารอเก้อแต่รถไม่มารับ กระทั่งล่าสุดวันเกิดเหตุเมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) มีเจ้าหน้าที่ติดต่อมาหาว่าจะนำรถมารับเพื่อพาสามีกับตนเองไปรักษาตัวที่ จ.ตาก แต่ไม่ทันเพราะสามีผูกตายตายไปแล้ว


ภรรยาผู้เสียชีวิต ระบุต่อว่า หน่วยงานดังกล่าวรับปากว่าจะมารับ รอแล้วรอเล่าก็ไม่มารับ สามีพยายามติดต่อให้รถของหน่วยงานนี้มารับแต่ก็ถูกเลื่อนออกไปอีก ช่วงเที่ยงเมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) มีเบอร์แปลกโทรมา โทรมาแจ้งว่าจะมารับตนกับสามี ตนไม่มีอะไรจะพูดจึงบอกเขาไปตรง ๆ ว่า “คุณลุงเสียแล้ว” เจ้าหน้าที่ตอบกลับมาว่า “เราไปไม่ทันเหรอเนี้ย”


คืนก่อนที่สามีจะขึ้นไปผูกคอตายบนดาดฟ้า ตนถามสามีว่า “เป็นอะไร” สามีตอบว่า “หลับก็หลับไม่ลงมีอะไรก็ไม่รู้มาสะกิดให้ลุกตลอด” ตนจึงบอกให้สามีสวดมนต์ สามีบอกว่าพระก็ช่วยไม่ได้ ทั้งนี้ตนถามย้ำสามีว่ารถจะมารับจริงมั้ยถ้าไม่มารับจะได้ไปเข้าแถวต่อคิวขอรับยามากิน สามีตอบว่า “ไม่ทันแล้วรถจะมาแล้ว”


จากนั้นตี 4 ของวันที่ 30 ก.ค. สามีเดินเปิดประตูห้องออกไป ไม่ได้พูดอะไร ตนเข้าใจว่าสามีน่าจะไปฉีดยาคลายเครียดที่โรงพยาบาล เอะใจเห็นโทรศัพท์และกระเป๋าเป้ของสามีวางอยู่ในห้อง จนกระทั่ง 11 โมง เจ้าของอพาร์ทเม้นท์โทรมาถามว่าสามีเป็นอย่างไรบ้างเวลานั้นตนยังเข้าใจว่าสามีไปโรงพยาบาล ปรากฏว่าเห็นรองเท้าของสามีอยู่หน้าห้อง


รู้สึกสังหรณ์ใจจึงขึ้นไปดูบนดาดฟ้า คิดว่าเผื่อสามีขึ้นไปนั่งทำใจอะไรหรือเปล่า ทีแรกเดินดูไม่เห็น แต่พอเดินสำรวจดูดี ๆ เห็นสามีผูกคอกับราวบันไดที่อยู่บนดาดฟ้า สภาพตัวเขียวม่วง ลิ้นจุกปาก “สามีน้อยเนื้อต่ำใจที่รถไม่มารับตัวไปรักษาที่บ้าน เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋ารอเก้อหลายครั้งแล้ว”


ซึ่งเมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) จะมีเจ้าหน้าที่มารับตัวตอน 10 โมงกลับไปรักษาตัวที่ จ.ตาก แต่โทรมาแจ้ง 11 โมง เพื่อยันยันจะเข้ามารับ แต่สามีผูกคอตายไปแล้ว “สามีเขามีความหวังอยากกลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิด สามีจะพาตนไปด้วยและดีใจที่ลูกไม่ติดเชื้อโควิด เราเตรียมกระเป๋าเสื้อผ้าไว้หมดแล้ว กองไว้ในห้อง”


ภรรยาผู้เสียชีวิต ยังระบุอีกว่า ตนไม่อยากโทษใครเพราะคนติดเชื้อเยอะ เจ้าหน้าที่ทุกคนพยายามอย่างเต็มที่ สามีคงเครียดหลายเรื่อง ตนเสียใจแต่ก็ต้องกัดฟันสู้ต่อไป เพราะยังมีลูกที่ต้องดูแล ถ้าเป็นอะไรไปลูกจะอยู่อย่างไร พยายามแข็งใจและตั้งสติ ตอนนี้ทำอะไรไม่ถูกนั่งอยู่ในห้องเฉย ๆ เจ้าของอพาร์ทเม้นท์มีน้ำใจโทรมาสอบถามอาการตลอดช่วยเหลือเรื่องอาหารการกิน ไม่ให้ตนออกไปไหน เพราะติดเชื้อให้กักตัวอยู่ในห้อง จนกว่าจะมีใบงานมารับไปรักษา


ป้าลั้ง อายุ 55 ปี เจ้าของอพาร์ทเม้นท์ เผยว่า สาเหตุที่ชายคนดังกล่าวผูกคอตายเกิดจากความเครียด ที่หน่วยงานหนึ่งนัดจะมารับตัวส่งกลับไปรักษาที่ จ.ตาก แต่ไม่มารับถึง 2 ครั้ง เหมือนให้ความหวังผู้ป่วย “มีความหวังเขาแล้วไม่มาเขาก็เครียดมาก ผู้ป่วยอยากรักษาตัวให้หายเพื่อจะได้อยู่รอด นัดแล้วไม่มารับ” ไม่คิดว่าจะมาตายอย่างนี้ สงสาร


สองสามีภรรยาคู่นี้ ไปตรวจซ้ำเอาผลมายืนยันจะได้เข้าสู่ขั้นตอนการรักษา ทั้งคู่ฝากให้ตนดูแลลูก เพื่อจะกลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิด จ.ตาก ตนก็รับปากจะดูแลลูกให้ ผู้ตายถ่ายท้อง ไอหนักมาก หลังจากที่ชายคนดังกล่าวผูกคอตาย


ภรรยาซึ่งกักตัวอยู่ในห้องบนอพาร์ทเม้นท์ ร้องไห้ฟูมฟายโทรมาแจ้งว่าสามีผูกคอตาย ตนเข่าแทบทรุดเพราะทั้งคู่เช่าห้องนานนับ 10 ปี รู้สึกผูกพันเหมือนคนในครอบครัว พอทราบว่าทั้งคู่ติดเชื้อตนก็ให้กักตัวไม่ได้ไล่ไปไหน อยากได้อะไรให้โทรมา เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นรู้สึกทำใจไม่ได้


เจ้าของอพาร์ทเม้นท์ “หากมีรถมารับไปรักษาตัวก็คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เขาไม่ตายแน่นอน เขามีความหวังว่าจะกลับไปรักษาตัวที่บ้าน ดูแลกันอย่างไร ตอนนี้ประชาชนเดือดร้อนมาก ตนช่วยโทรหาหน่วยงานต่าง ๆแต่โยนกันไปมา ทุกแห่งบอกเตียงไม่ว่าง มันถึงได้มีจุดจบแบบนี้”


วานนี้ (30 ก.ค.) กว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยจะเก็บศพก็ค่ำมืดแล้ว ใส่ถุงซิปล็อกสามชั้นพ่นยาฆ่าเชื้อ จากนั้นยกร่างผู้เสียชีวิตลงมาจากบนดาดฟ้า ใส่โลงศพพี่เตรียมไว้นำไปเผาทันที โดยกู้ภัยร่วมกตัญญูดำเนินการเรื่องงานศพให้ เนื่องจากภรรยาของผู้ตายติดเชื้อโควิดกักตัวอยู่ในห้องพัก ไม่สามารถมาพิธีเผาศพของสามีได้


อย่างไรก็ตามที่อพาร์ทเมนท์แห่งนี้ มีผู้ติดเชื้อโควิดทั้งชาวไทย ต่างด้าวกักตัวอยู่ในห้องพักรอเข้ารับการรักษาเกือบ10 คน โดยมีเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตทุ่งครุคอยมาดูแล ประเมินอาการระหว่างรอเตียง ขณะที่ทีมข่าวลงพื้นที่ได้นำสิ่งของที่ได้รับบริจาคผ่านรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ไปส่งมอบให้ อาทิ หน้ากากอนามัย ฟ้าทลายโจร กระชายขาว ยาแก้ปวดลดไข้


รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/acocJ-ZO69U

คุณอาจสนใจ

Related News