สธ.พบผู้เสียชีวิต 65 ราย ติดเชื้อโควิดแบบไม่มีอาการ และไม่ทราบต้นตอ

สังคม

สธ.พบผู้เสียชีวิต 65 ราย ติดเชื้อโควิดแบบไม่มีอาการ และไม่ทราบต้นตอ

โดย thichaphat_d

26 ก.ค. 2564

12 views

เมื่อวานนี้ (25 ก.ค.) ต้องแสดงความเสียใจ เนื่องจากมีตัวเลขผู้เสียชีวิตค่อนข้างมาก รายงานเสียชีวิต 129 ราย รวมสะสม 3,965 ราย เกินครึ่ง 70% อยู่ในกทม.และปริมณฑล สถานการณ์เท่าที่ดูตัวเลขผู้เสียชีวิตยังคงสูงเกินร้อย และตัวเลขติดเชื้อรายใหม่ก็ยังสูงมาก 


นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า ภาคอีสาน ส่วนใหญ่เพิ่มในอีสานกลางและอีสานใต้ รับผู้เดินทางจาก กทม.และปริมณฑลพื้นที่ระบาดหนักกลับไปรักษาในภูมิลำเนา และพบคลัสเตอร์ตามมาในครอบครัว รวมถึงในสถานประกอบการและตลาดในบางจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดภาคกลางและภาคตะวันออก ส่วนของปริมณฑลยังมียอดผู้เสียชีวิตและติดเชื้อเพิ่ม โดยเฉพาะนนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี สมุทรสาครที่ วานนี้ (25 ก.ค.) เกิน 1 พันราย


การติดเชื้อในทุกจังหวัด โดยเฉพาะอีสานตอนล่าง ภาคกลาง ตะวันออก รายงานติดเชื้อค่อนข้างมาก องค์ประกอบสำคัญที่ทำให้มีการแพร่โรค มี 3-4 ประเด็น คือ


1.คนที่ไปจับจ่ายใช้สอย และไปอยู่ใกล้กับผู้ติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว


2.โรงงาน สถานประกอบการที่เริ่มพบผู้ติดเชื้อ และสั่งปิดโรงงาน ทำให้คนงานกระจายออกไปโดยไม่ทราบว่าติดเชื้อ ทำให้มีการแพร่เชื้อ


3.ในส่วนแคมป์คนงานหรือในชุมชน 4 จังหวัดภาคใต้ มีการระบาดในชุมชน เป็นต้น


นอกจากนี้ พบหญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 20 สัปดาห์เสียชีวิตอีก 1 ราย ปัจจัยเสี่ยงสำคัญวันนี้แตกต่างจากช่วง 3-4 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ ซึ่งจะเป็นคนในครอบครัว เพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมงาน นำเชื้อมาสู่คนรู้จัก แต่ตอนนี้ในพื้นที่ระบาดมีการระบาดค่อนข้างมาก สอบสวนหลายกรณีไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าติดเชื้อจากใคร


ดังนั้น การอาศัยหรืออยู่ในพื้นที่ระบาดหนักมากๆ เช่น กทม. ปริมณฑล หรือพื้นที่ใกล้เคียงผู้ติดเชื้อเริ่มเพิ่มขึ้น อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ เพราะเราไม่ทราบว่า คนใกล้ชิดเราติดเชื้อหรือยัง โดยเราพบว่าผู้เสียชีวิต 65 คน อาศัยอยู่พื้นที่ระบาดและไม่สามารถค้นได้ว่าติดเชื้อจากใคร


นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตเป็นชายมากกว่าหญิง คนไทยเป็นส่วนใหญ่ จากการเก็บข้อมูล แต่อาจไม่ครบ 100% พบว่า มี 79 รายไม่เคยได้รับวัคซีน ที่เหลืออีกกว่า 40 รายไม่สามารถระบุได้ ต้องติดตามข้อมูล เมื่อคิดในกลุ่ม 60 ปีคิดเป็น 70% ถือเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงมาก


ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนโควิด 19 ของประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-24 ก.ค.2564 ในกลุ่มต่างๆ เราจะพบว่าในผู้ที่อายุ 60 ปีขึ้นไป ตั้งเป้าหมาย 12.5 ล้านคนต้องฉีดให้ได้ภายในปีนี้ เราฉีดได้แค่ 2.5 ล้านคนในเข็มที่ 1 คิดเป็น 20% ส่วนเข็มที่ 2 ฉีดได้ 1.3% หรือ 1.6 แสนคน ดังนั้น ลูกหลานต้องพาท่านไปฉีดวัคซีนในทุกพื้นที่ทุกจังหวัด และกลุ่ม 7 โรคเรื้อรังยังฉีดไม่มากในส่วนเข็มที่ 1 ต้องเร่งฉีดเช่นเดียวกัน


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/9K5JHk8Jsz0

คุณอาจสนใจ

Related News