วันที่ 24 ก.ค.64 ตำรวจ สภ.เสม็ด จ.ชลบุรี ได้นำตัว น.ส.พรประภา หรือ หนึ่ง จูกลิ่น อายุ 35 ปี และ น.ส.จันจิรา หรือ มิ้น ตันสิน อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฉ้อโกง โดยอ้างว่าฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แต่ปรากฏว่าได้นำน้ำเกลือไปฉีดให้กับผู้เสียหาย พร้อมทั้งเรียกเงิน 19,000 บาท

ซึ่งผู้เสียหายมีทั้งหมด 5 คน ประกอบไปด้วย น.ส.ประเสริฐ อายุ 60 ปี, น.ส.สุนันท์ อายุ 49 ปี, นางอนงค์ อายุ 68 ปี, นายประสิทธิ์ อายุ 53 ปี และ ด.ญ. อายุ 12 ปี และได้เสียเงินที่ถูกอ้างว่าจะฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา ให้แต่กลับฉีดน้ำเกลือให้แทน คิดเป็นเงิน 19,000 บาท มาดำเนินการสอบปากคำเบื้องต้น

สืบเนื่องจากตำรวจ สภ.เสม็ด ได้รับการประสานงานจากนายจิระสันต์ มีรัตน์ธนวัต เภสัชกรชำนาญการพิเศษ สำนักงานสาธารณสุข จ.ชลบุรี ว่ามีการลักลอบนำวัคซีนแอสตราเซเนกา ออกมาจำหน่ายและฉีดให้กับประชาชน โดยมี น.ส.พรประภา เป็นผู้ประสานงานในราคาเข็มละ 2,200 บาท ซึ่งในความเป็นจริงจะต้องได้รับการจัดสรรจากภาครัฐ จึงได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวน และได้ควบคุมตัว น.ส.พรประภา มาสอบปากคำ

โดย น.ส.พรประภา ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับ น.ส.จันจิรา หลอกลวงผู้เสียหายว่า สามารถนำวัคซีนแอสตราเซเนกาออกมาจำหน่ายและฉีดให้กับผู้เสียหายได้ และได้ทำการฉีดผู้เสียหายทั้งหมด 5 คน คิดเงิน 19,000 บาท

นอกจากนี้ ยังให้การปฏิเสธว่าไม่ได้รับวัคซีนมาจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน อ.เมืองชลบุรี แต่อย่างใด ส่วนวัคซีนแอสตราเซเนกาที่อ้างว่านำมาฉีดให้กับผู้เสียหายนั้น เป็นน้ำเกลือ ส่วนอุปกรณ์การฉีดได้ซื้อมาจากร้านขายยาทั่วไป ส่วนเอกสารใบนัดฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 นั้น ได้แอบเอาแบบฟอร์มไปถ่ายเอกสารเพื่อมอบให้กับผู้เสียหาย

ในการสอบปากคำครั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพว่าทำผิดจริง ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหาในการกระทำความผิดประกอบไปด้วย ร่วมกันฉ้อโกง ประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดยไม่ได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพ ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต และกระทำการพยาบาลนอกสถานที่พยาบาล ซึ่งจะได้ส่งฟ้องศาลต่อไป

นางอนงค์ ผู้เสียหาย กล่าวว่า ครั้งแรกตนเองจะไปฉีดวัคซีนที่หอประชุมเทศบาลเมืองบ้านสวน ซึ่งจะเป็นการฉีดวัคซีนซิโนแวค แต่ได้รับคำแนะนำจาก น.ส.พรประภา ทำงานเกี่ยวกับร้านขายยา ซึ่งเป็นแฟนของน้องชาย ให้ไปฉีดแอสตราเซเนกา เพราะอายุเกิน 60 ปีแล้ว ปลอดภัยกว่า โดยจะจองผ่านโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน อ.เมืองชลบุรี ใช้สิทธิพนักงานจะได้รับสิทธิพิเศษลดราคา

จึงได้ตกลงฉีดพร้อมกันทั้งครอบครัว ในวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา และนัดฉีดวันที่ 21 ก.ค. ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เมื่อถึงเวลานัดหมาย ได้มีการนำพยาบาลมาฉีดให้ที่บ้าน อ้างว่าไปโรงพยาบาลเสี่ยงติดเชื้อ ซึ่งฉีดทั้งตนเอง แม่ของตน ลูกสาว สามี พี่สาวแฟน จ่ายเงินไปทั้งหมด 19,000 บาท

ส่วนสาเหตุที่รู้ว่าถูกหลอก เนื่องจากต้องการใบรับรองว่าฉีดเข็มแรก และเตรียมที่จะฉีดเข็มที่ 2 ปรากฏว่าไม่ยอมนำมาให้ จึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามทางโรงพยาบาลว่ามีการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาหรือไม่ ทางโรงพยาบาลยืนยันว่าไม่มีการฉีด ไม่มีการจอง ทางโรงพยาบาลขอความร่วมมือจนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวมาได้ และให้การรับสารภาพว่าได้นำน้ำเกลือมาฉีดให้ตนเองและคนในครอบครัว

ชมผ่านยูทูบที่ : https://youtu.be/KsmBhOeqAhw