โดยข้อกำหนดฉบับที่ 28 มีการกำหนดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดรวมเป็น 13 จังหวัด จากเดิมมีกรุงเทพฯและปริมณฑลรวม 6 จังหวัด และ ชายแดนภาคใต้อีก 4 จังหวัด ก็เพิ่มอีก 3 จังหวัด คือ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และ อยุธยา

ส่วนมาตรการ จะเริ่มมีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ 20 ก.ค. โดยหลักๆ ยังคงเน้นการลดและจำกัดการเดินทาง โดยห้ามออกจากบ้าน หรือเคอร์ฟิว ระหว่าง 3 ทุ่มถึงตี 4 ยกเว้นมีเหตุจำเป็น เช่น เพื่อพบแพทย์ / เพื่อรับวัคซีน / และการปฏิบัติงาน

นอกจากนี้สำหรับห้างสรรพสินค้า ให้เปิดเฉพาะ โซนซูเปอร์มาเก็ต ร้านขายยาและเวชภัณฑ์ และจุดให้บริการฉีดวัคซีน ขณะเดียวกัน ยังขอให้ภาครัฐและเอกชน ใช้มาตรการ Work From Home ขั้นสูงสุด รวมถึงการปรับระบบขนส่งสาธารณะ จำกัดผู้โดยสารไม่เกิน 50%

โดย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสมช. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศบค. (ศปก.ศบค.) บอกว่า มาตรการคุมเข้มที่จะเริ่มมีผลในวันพรุ่งนี้ ยังคงตั้งเป้าไว้ที่ 14 วัน คือ ถึงวันที่ 2 สิงหาคม แต่ศปก.ศบค.จะประเมินผลทุกๆ 7 วัน หากตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตยังเพิ่มสูงขึ้น ก็จะจะต้องพิจารณาปรับตามสถานการณ์ ซึ่งศบค.ชุดใหญ่จะเป็นผู้กำหนด

ทั้งนี้ในการปรับมาตรการของศบค. ล่าสุด นายฉัตรไชย ศิริไล ประธานสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ เปิดเผยว่า ธนาคารอาคารสงเคราะห์ / ธนาคารออมสิน / ธ.ก.ส. / เอ็กซ์ซิมแบงค์ / เอสเอ็มอี ดี แบงค์ / ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย / และ บสย.จะปิดให้บริการสาขาในห้างสรรพสินค้า ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ทั้ง 13 จังหวัด เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่ พรุ่งนี้เป็นต้นไป และจะพิจารณาปิดให้บริการสาขาบางแห่งเพิ่มเติมตามความจำเป็น โดยลูกค้าสามารถตรวจสอบสาขาใกล้เคียงที่เปิดให้บริการได้ตามประกาศที่ทาง website ของแต่ละธนาคาร

ส่วนสาขาในห้าง นอกเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จะยังคงเปิดให้บริการเวลาไม่เกิน 17.00 น. สาขานอกห้าง เปิดให้บริการไม่เกินเวลา 15.30 น. ขณะที่สาขาใน 3 จังหวัดภาคใต้ คือ ยะลา นราธิวาส และปัตตานี เปิดให้บริการเวลาไม่เกินเวลา 15 .00 น.