จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในอเมริกากลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งหลังจากที่หลังลดลงต่อเนื่องหลายเดือน โดยสาเหตุหลักมาจากการระบาดสายพันธุ์กลายพันธุ์เดลต้า ที่พบในสหรัฐแล้ว ขณะที่ อัตราผู้รับการฉีดวัคซีนเริ่มชะลอตัวลง รวมทั้งมีกิจกรรมรวมตัวของผู้คนอย่างช่วงเทศกาลฉลองวันชาติ เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมาด้วย

โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อล่าสุดจากเว็บไซต์เวิลด์โดมิเตอร์ ในช่วง 3 วันที่ผ่านมานั้นทะลุหลักหมื่นมาต่อเนื่อง จากเดิมที่หลักพัน โดยใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อใหม่ที่ 12,545 ก่อนหน้านั้นอยู่ที่ 29,912 และเมื่อ 2 วันที่แล้วอยู่ที่ 21,068 คน

ทางด้าน นพ.บิลล์ พาวเวอร์ลี ผู้อำนวยการร่วมของแผนกโรคติดเชื้อ คระแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยวอชิงตัน ในเซนต์หลุยส์ บอกว่า การติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นถือ เป็นสิ่งที่คาดหมายกันอยู่แล้ว ว่าเคสผู้ป่วยจะต้องเพิ่มขึ้นภายหลังสุดสัปดาห์ฉลองวันชาติอเมริกัน 4 ก.ค.

ขณะเดียวกัน หลายพื้นที่ในอเมริกาประสบปัญหาประชาชนต่อต้านการฉีดวัคซีน ในภาวะที่สัดส่วนผู้ป่วยที่ติดเชื้อจากไวรัสกลายพันธุ์ โควิดสายพันธุ์เดลตาเพิ่มสูงขึ้น

โดย ศูนย์เพื่อการควบคุมและป้องกันโรคของอเมริกา (ซีดีซี) ระบุว่าขณะนี้ชาวอเมริกัน 56% ฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วอย่างน้อย 1 เข็ม ขณะที่ใน 5 รัฐที่พบเคสใหม่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาล้วนเป็นรัฐที่มีสัดส่วนประชากรที่ฉีดวัคซีนต่ำ ไม่ว่าจะเป็นที่รัฐ มิสซูรี อาร์คันซอส์ เนวาดา หลุยเซียนา และยูทาห์ ซึ่งมีอัตราประชากรที่ฉีดวัคซีนไม่ถึง 50%