องค์การอาหารและยาแห่งชาติสหรัฐฯ (เอฟดีเอ) ออกแถลงการณ์ แจ้งเตือนวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน มีความเป็นไปได้ที่จะเสี่ยงให้เกิดโรคทางระบบประสาท ที่เรียกว่า "กิลเลง บาเร ซินโดรม" Guillain-Barré syndrome ซึ่งเป็นโรคระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ที่ทำให้กล้ามเนื้ออัมพาตอ่อนแรงอย่างเฉียบพลันทั้งสองข้าง

แถลงการณ์ระบุว่า มีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ซึ่งเป็นวัคซีนที่ฉีดแค่เข็มเดียว แล้วเกิดกลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เร 95 ราย จนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ศพ

โดยกลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เร โรคทางระบบประสาทที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำลายเซลล์ประสาททำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและก่อให้เกิดอัมพาตได้ในบางครั้ง โดยส่วนใหญ่ พบอาการนี้ในผู้ได้รับการฉีดวัคซีนของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ภายใน 42 วันหลังฉีด ทว่าความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงนี้อยู่ในระดับต่ำมาก

ขณะนี้ เอฟดีเอ และซีดีซี กำลังตรวจสอบรายงานการป่วยในกลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เร ของผู้ได้รับการฉีดวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ที่มีรายงานเข้ามามากในช่วงประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่ผู้ที่เกิดอาการ จะเป็นผู้ชาย และจำนวนมาก อายุ 50 ปี รวมถึงอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป ในขณะที่ทางการสหรัฐฯได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของจอห์สัน แอนด์ จอห์นสัน แล้ว 12.8 ล้านโดส

ขณะเดียวกัน เฟซบุ๊กแฟนเพจของสถานทูตสหรัฐประจำกรุงเวียงจันทน์ เมืองหลวงของลาว เปิดเผยว่า ทางการสหรัฐเตรียมส่งวัคซีน จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ให้กับทางการลาวกว่า 1 ล้านโดส

โดยรายละเอียดระบุว่า วัคซีนจำนวน 1,008,000 โดส โดยจะมาถึงลาวในวันที่ 15 กรกฏาคม วัคซีนนี้ฉีด 1 คน ต่อ 1 โดส เพราะฉะนั้น วัคซีนจำนวน 1,008,000 โดสนี้ เท่ากับประชาชนใน สปป.ลาว 1,008,000 คน และ สหรัฐอเมริกามีความภาคภูมิใจที่ได้ให้การสนับสนุนเป้าหมายของงานด้านสุขภาพของรัฐบาลลาวเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 50 % ของจำนวนประชากรในสิ้นปีนี้