รพ.สนามธรรมศาสตร์ พบบุคลากรติดโควิด 3 คน ต้องกักตัวเกือบ 100 คน

ข่าวโซเชียล

รพ.สนามธรรมศาสตร์ พบบุคลากรติดโควิด 3 คน ต้องกักตัวเกือบ 100 คน

โดย passamon_a

11 ก.ค. 2564

680 views

เพจเฟซบุ๊ก โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ โพสต์รูปภาพ พร้อมข้อความระบุว่า "เสาร์ที่ 10 กรกฎาคม วันที่ผู้ป่วยใหม่สูงสุด 9326 คน และมีผู้เสียชีวิตสูงสุด 91 คน นับตั้งแต่มีการระบาดของโควิดในประเทศ


สถานการณ์ที่ธรรมศาสตร์วันนี้ ก็โกลาหลไม่แพ้สถานการณ์ของประเทศ เพราะเช้านี้เราพบว่ามีอาจารย์GI เภสัชกรและเจ้าหน้าที่ฝ่ายคลังของเรา มีผลตรวจเป็นบวกสามคน กับมีผู้ป่วยที่พักรักษาตัวมาหลายวันแล้วใน ward Ortho และใน ward CVTก็มีผล swab เป็นบวกด้วย


มาตรการป้องกันที่ตามมาคือการเก็บตัวบุคลากรที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสูงทำงานใกล้ชิดทั้งวอร์ดเข้ารับการ swab และกักตัวเจ็ดวันในทุกหน่วยงาน เกือบ 100 คน ที่เข้าคิวรอรับการตรวจในวันนี้จึงเป็นบุคลากรของโรงพยาบาลเกือบทั้งหมด สัปดาห์หน้าจะเป็นสัปดาห์ที่ยากลำบากต่อกันไปอีกสัปดาห์หนึ่ง เพราะแม้พวกเราอาจจะได้กำลังจากหมอโรคทางเดินหายใจที่กลับมาทำงานได้บ้าง แต่ก็จะมีแพทย์และบุคลากรอีกหลายกลุ่มต้องออกไปกักตัวตามมาตรการความปลอดภัยและป้องกันการติดเชื้อของโรงพยาบาลด้วย


เมื่อวาน ผู้ป่วยโควิดที่ล้นโรงพยาบาลและรอคิวอยู่หลายสิบคนมาหลายวันแล้วทำให้วอร์ด Cohort #2 ที่เพิ่งเปิดเมื่อวานนี้เองต้องรับผู้ป่วยใหม่เข้าไปทันทีแปดเคสในวันแรก และคงจะเต็ม 16 เตียงในเสาร์อาทิตย์นี้เลย เร็วกว่าที่ประเมินไว้ว่าวอร์ดจะเต็มในสี่ห้าวันอีกนะ


จำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และการติดเชื้อต่อเนื่องในโรงพยาบาลทำให้มาตรการคัดกรองผู้ป่วยทุกประเภทต้องเข้มงวดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผู้ป่วยทุกรายที่ส่งตัวจากภายนอกมาที่ห้องฉุกเฉิน ER จะถูกสันนิษฐานไว้ก่อนว่าอาจจะ เป็นผู้ป่วยบวก และจะต้องใช้มาตรการป้องกันอย่างเต็มที่สำหรับบุคลากรทุกคน ทั้ง N 95 faceshield และ PPE อีกทั้งเรายังต้องการมี negative pressure room เพื่อรอผลตรวจเชื้อโควิดของผู้ป่วยฉุกเฉินเพิ่มมากขึ้นอีกสักสองสามเท่าเพื่อรอผลการตรวจเชื้อก่อนทำหัตถการต่างๆ


ต้องการบุคลากรดูแลคัดกรองผู้ป่วยมากขึ้นแม้ในสถานการณ์วิกฤติที่มีผลต่อชีวิตของผู้ป่วย สภาพการณ์เช่นนี้ทำให้ต้องมีขั้นตอนและภาระงานเพิ่มมากขึ้น และการให้ความช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วยทำได้ช้าลงกว่าเดิม โดยที่บุคลากรที่มีจำกัดอยู่แล้ว ต้องทำงานมากขั้นตอนขึ้น เหนื่อยและเครียดตลอดเวลา กับการที่จะต้องคอยรับคนไข้วิกฤติที่ต้องช่วยชีวิตเร่งด่วน ตลอดทั้ง 24ชม. ที่อาจจะเป็นผู้ติดเชื้อ และอาจทำให้บุคลากรได้รับเชื้อ และจะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ช่วยชีวิตผู้ป่วยอื่นๆได้อีกต่อไป


ตัวอย่างของงานในห้องฉุกเฉินที่มีตลอด 24 ชั่วโมงเช่นนี้ เป็นสถานการณ์ที่สะท้อนภาพความเหนื่อยยาก ความเครียด ความวิตกกังวลและความเหนื่อยล้าอิดโรยของผู้ปฏิบัติงานที่เป็นอยู่ในโรงพยาบาลทุกๆแห่งของประเทศในเวลานี้ และเป็นต่อเนื่องกันมาหลายเดือนติดต่อกันแล้ว แต่ที่ยังยืนหยัดต่อสู้กันอยู่จนถึงวันนี้ได้ คงเป็นเพราะปณิธาน ความรักในวิชาชีพและจรรยาบรรณของแพทย์พยาบาลที่คิดถึงประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง และการที่พวกเราตระหนักถึงความคาดหวังของผู้คนในสังคมไทยต่อวิชาชีพของพวกเราในสถานการณ์วิกฤติร้ายแรงนี้นั่นเอง


ที่ศูนย์รับวัคซีนธรรมศาสตร์ที่ยิม 4 วันนี้เป็นวันที่สามสิบสามที่เราให้บริการต่อเนื่องมาโดยไม่มีวันหยุด มีผู้มารับวัคซีนที่รอคอยไปได้อีก 1549 คนเราจะให้วัคซีนแก่ทั้งผู้ที่จองคิวไว้ใน #หมอพร้อม และที่จองกับศูนย์คอลเซ็นเตอรของ รพธ. ในช่วงเดือนพฤษภา และจะทะยอยเรียกคิวผู้ที่มาจองไว้ด้วยตัวเองที่ยิม4 ในเดือนมิถุนายน เข้ามาในระบบเป็นช่วงๆตามจำนวนวัคซีนที่บริหารจัดการได้ และขณะนี้ เราได้ประกาศจะฉีดวัคซีน Astra ต่อเนื่องไปจนถึง 15 กรกฎาคมเป็นอย่างน้อยแล้ว โปรดตรวจสอบวันที่และการจองของท่านที่ได้รับการยืนยันได้ในแอพหมอพร้อม และอย่าลืมมาพบพวกเราตามนัดที่ยิม4 นะ ที่นี่ เรายังไม่เคยเทใครเลยนะ อดทนรออีกนิดนะ ถ้ายังไม่ถึงคิว


ที่โรงพยาบาลสนามวันนี้เป็นวันที่เก้าสิบเอ็ด งานยังหนักเหมือนเดิมแม้ว่าเราจะส่งผู้ป่วยที่หายแล้วกลับบ้านได้ถึง 31คนแต่ก็รับผู้ป่วยใหม่เข้ามาอีก 29 คน ทำให้ตัวเลขรวมเหลืออยู่ 334 คน ตัวเลขผู้ป่วยอาจจะดูไม่เพิ่มขึ้น แต่การเปลี่ยนสถานะผู้ป่วยจากสีเขียวเป็นสีเหลืองมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ภาระงานและความยุ่งยากเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าสำหรับผู้ป่วยแต่ละรายเลยทีเดียว ในขณะที่กำลังคนยังมีเท่าๆกับเมื่อตอนที่ยังไม่มีผู้ป่วยสีเหลืองสี่สิบกว่ารายนี้


แต่เราก็รู้ว่า ทุกที่ ทุกแห่งก็หนัก และพวกเราในระบบสาธารณสุข กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นการรบประชิดตัวในสงครามที่มองไม่เห็นตัวข้าศึก เห็นแต่ผู้ป่วยที่บาดเจ็บล้มตายเป็นใบไม้ร่วง ภายใต้การบัญชาการรบที่ขาดยุทธวิธี ขาดการกำหนดทิศทางหรือนโยบายที่เป็นเอกภาพ พวกเราทุกคนในทุกแห่งจึงต้องรบอย่างอิสระไปตามสถานการณ์ ตามทรัพยากรและตามกำลังที่มี เพื่อจะช่วยกันปกป้องประเทศและปกป้องผู้คนของเราเอาไว้ให้ดีที่สุด เท่าที่จะมีกำลังทำได้ และเพื่อปกป้องระบบสาธารณสุขของเราเอาไว้ให้รอดไปให้ได้ในสัปดาห์วิกฤตที่กำลังจะมาถึงนี้


เราจะสู้ จนสุดกำลังความสามารถที่พวกเรามีอยู่ และถ้าพวกเราจะเอาชนะไม่ได้ ก็กรุณาให้อภัยพวกเราด้วยนะ"


ชมผ่านยูทูบที่ : https://youtu.be/mAuuv7o17Oc

คุณอาจสนใจ

Related News