ภาคเอกชนหมดความอดทน จี้รัฐหยุดแจกเงิน แล้วนำเงินไปทุ่มหาวัคซีนทางเลือกฟรีให้ประชาชน หลังโควิดเริ่มกระทบภาคการผลิต ส่งผลต่อการฟื้นตัวขอวงเศรษฐกิจ

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า แนวทางการจัดหาวัคซีนและการกระจายวัคซีนโควิด-19 เพื่อทลายข้อจำกัดทั้งในแง่ของความเชื่อมั่น และการนำเข้าวัคซีนทางเลือกนั้น สิ่งสำคัญลำดับแรก คือ รัฐบาลจะต้องจัดหาวัคซีนเข้ามาเพิ่มเติมให้กับประชาชนได้ฉีดอย่างครบถ้วน ซึ่งภาคเอกชนยังมองเป้าหมายการฉีดให้ได้ 70% ของจำนวนประชากร เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดขณะนี้ เป้าหมายดังกล่าวที่ตั้งไว้ภายในสิ้นปีนี้มันดูจะช้าเกินไปแล้ว

โดยสิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ คือ การแจกเงินก่อน เช่น โครงการคนละครึ่ง โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ที่แจกประมาณ 5,000-7,000 บาทต่อคนนั้น เห็นว่าควรนำไปซื้อวัคซีนแทน เพราะวัคซีนราคาไม่เกิน 2,000 บาทต่อคน ถูกกว่าการใช้เงินดังกล่าวอยู่แล้ว ขณะเดียวกันต้องปลดล็อคการจัดหาวัคซีนทางเลือก ที่ต้องผ่านการจัดหาโดยรัฐเท่านั้น กลายเป็นปัญหาคอขวด ทั้งที่ภาคเอกชนก็พร้อมจะดูแลค่าใช้จ่าย แต่ยังติดปัญหากับขั้นตอนที่เข้มงวด ขณะที่ในหลายประเทศสามารถนำเข้ากันเองได้ในปริมาณมาก จนวัคซีนเหลือทิ้งด้วยซ้ำ

เช่นเดียวกับสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือฯ ระบว่า สถานการณ์การระบาดโควิด-19 ในประเทศที่มีรุนแรง ส่งผลให้ภาคการผลิตหยุดชะงัก และต้องเลื่อนการส่งมอบสินค้าไปยังประเทศปลายทาง เป็นปัจจัยลบต่อการส่งออก ซึงทางออกเดียว คือ รัฐต้องเร่งกระจายวัคซีนโดยเร็ว

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/Jh7jMZfMtFk