องค์การอนามัยโลกเผย ยุโรปมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 10 สัปดาห์ พร้อมเตือนว่า จะมีการระบาดระลอกใหม่ถ้าการ์ดตก โดยจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในทวีปยุโรปกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อสัปดาห์ก่อน หลังจากลดลงมาตลอดช่วง 10 สัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมกับเตือนด้วยว่า จะเกิดการระบาดระลอกใหม่ หากผู้คนไม่ทำตามมาตรการควบคุม

ซึ่งเมื่อสัปดาห์ก่อน จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 10% เนื่องจากมีการพบปะ, เดินทาง, รวมตัว และผ่อนคลายข้อจำกัดทางสังคมมากขึ้น และด้วยสถานการณ์ล่าสุดเกิดขึ้นควบคู่กับการมาของไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตา ซึ่งพบเป็นครั้งแรกในอินเดีย และตอนนี้กำลังแทนที่ไวรัสสายพันธุ์อัลฟา ที่พบครั้งแรกในอังกฤษอย่างรวดเร็ว และอาจกลายเป็นไวรัสสายพันธุ์หลักของการระบาดในยุโรป และหลายประเทศในเอเชียภายในเดือนสิงหาคมนี้

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า อังกฤษเตรียมเดินหน้าโครงการฉีดวัคซีนโควิด-19 กระตุ้นภูมิคุ้มกันเข็มที่ 3 ให้แก่ประชาชนกลุ่มที่มีร่างกายอ่อนแอ ในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ควบคู่ไปกับการเตรียมฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ในช่วงฤดูหนาว เชื่อว่าการฉีดวัคซีนเสริมนั้นจำเป็นในการช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้อยู่ในระดับสูง โดยเฉพะในช่วงฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่โรคโควิด-19 มีแน้วโน้มกลับมาแพร่ระบาดซ้ำ และเป็นช่วงเดียวกับฤดูไข้หวัดใหญ่ระบาด

โดยกลุ่มที่จะได้รับวัคซีนเข็มที่สามกลุ่มแรกคือผู้สูงอายุที่อาศัยในบ้านพักคนชรา ผู้ที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขด่านหน้า หลังจากนั้นจะเริ่มฉีดให้แก่ประชาชนกลุ่มอายุอื่นๆ ที่มีความเสี่ยงเกิดอาการร้ายแรงหากติดโรคโควิด-19 ขณะเดียวกันทางการยังไม่ระบุว่าวัคซีนกระตุ้นภูมิเข็มที่สามนั้นจะเป็นวัคซีนจากบริษัทใด

ด้านผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าการฉีดวัคซีนเสริมนั้นมีความจำเป็นโดยเฉพาะในกลุ่มที่มีร่างกายอ่อนแอ และมีภูมิต้านทานลดลงหลังจากที่ได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้ว ซึ่งการฉีดวัคซีนเข็มที่สามนั้น มีเป้าหลายเพื่อช่วยลดอัตราการเสียชีวิตและอาการป่วยรุนแรงของผู้ที่ได้รับวัคซีน