เมื่อวานนี้ (21 มิ.ย.2564) น.ส.สุรินทร์ แอบเสมา อายุ 30 ปี ได้ร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี บอกว่า ลูกสาว 2 คน อายุ 4 ขวบ กับ 2 ขวบ ถูกพี่สะใภ้ที่ตนเองจ้างเลี้ยงลูก พาหลบหนีไป 7 วันแล้ว ไม่สามารถติดต่อได้ เกรงว่าลูกทั้ง 2 คน จะเป็นอันตราย โดยแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ที่ผ่านมา และขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดี พร้อมทั้งเป็นสื่อกลางประชาสัมพันธ์ หากใครพบเบาะแสพี่สะใภ้กับลูกทั้งสองของตนช่วยแจ้งข่าวด้วย

น.ส.สุรินทร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนเลิกรากับสามี และไปทำงานรับจ้างอยู่ที่กรุงเทพฯ โดยฝากลูกสาว 2 คน คือ ด.ญ.ชโรชา อายุ 4 ขวบ เป็นลูกครึ่งอังกฤษ กับ ด.ญ.ธาราลักษ์ อายุ 2 ขวบ เป็นลูกที่ตนเองมีกับสามีใหม่ ไว้กับ นางรุ้งลาวัลย์ พุ่มบัว อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นพี่สะใภ้ อยู่ที่บ้านเลขที่ 23/2 หมู่2 ต.คลองข่อย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ตั้งแต่ลูกทั้งสองยังเล็ก ซึ่งพี่สะใภ้เองก็ได้เลิกรากับพี่ชายตนไปเมื่อ 2 ปีก่อน และมีลูกสาว 1 คน อายุ 12 ปี ปัจจุบันพี่สะใภ้จึงอาศัยอยู่กับลูกสาวและหลานสาวรวม 4 คน

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ตนเองจ้างพี่สะใภ้เลี้ยงลูก 2 คน เดือนละ 4,000 บาท และตนก็จะโทรคุยกับลูกทุกวัน เมื่อมีเวลาตนก็จะกลับไปเยี่ยมลูกอยู่บ่อยๆ กระทั่งเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตนติดต่อลูกสาวไม่ได้ โทรหาพี่สะใภ้ก็ไม่ติด จึงได้รีบเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปบ้านพี่สะใภ้ที่ราชบุรี ก็พบว่าพี่สะใภ้พาลูกสาวทั้ง 2 คนของตนเองหายไป จนถึงวันนี้ก็ยังไม่สามารถติดต่อพี่สะใภ้ได้ และก็ไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมพี่สะใภ้ถึงทำแบบนี้ เกรงว่าลูกทั้ง 2 คน จะเป็นอันตราย

นอกจากนี้ ตนเองยังได้ทราบข้อมูลจากนายตี๋ คนที่อาศัยอยู่ในละแวกเดียวกับบ้านพี่สะใภ้ เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา พี่สะใภ้ได้โทรมาหานายตี๋ และบอกว่า ลูกสาวคนเล็กของตนจมน้ำ และพี่สะใภ้ได้พาเด็กไปส่งที่โรงพยาบาลโพธาราม แพทย์อยู่ระหว่างปั๊มหัวใจ ก่อนที่พี่สะใภ้จะตัดสายไป จากนั้นไม่นานพี่สะใภ้ก็ได้โทรกลับไปมาหานายตี๋อีกครั้งแจ้งว่า เด็กฟื้นแล้ว และก็วางสายไปเลย โดยหลังจากนั้นนายตี๋ก็ไม่สามารถติดต่อพี่สะใภ้ได้อีก

หลังรับเรื่อง นางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.ชูเกียรติ ภูกาบพลอย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี เพื่อนัดหมายให้ น.ส.สุรินทร์ เข้าพบให้ข้อมูล ในวันนี้ เวลาบ่าย 2 โมง ขณะที่ตำรวจเช็คประวัติการรักษาของ ด.ญ.ธาราลักษ์ ที่โรงพยาบาลโพธาราม ตามที่พี่สะใภ้อ้างว่าเด็กจมน้ำ แต่ไม่พบประวัติการรักษา

ล่าสุด ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปพบกับ น.ส.สุรินทร์ เพื่อติดตามความคืบหน้าหาเบาะแสพี่สะใภ้และเด็กๆ โดย น.ส.สุรินทร์ เล่าทั้งน้ำตาว่า เมื่อเช้าตอน 8 โมง พี่สะใภ้ได้โทรศัพท์หาตนเอง แล้วสารภาพว่า ด.ญ.ธาราลักษ์ ลูกสาวคนเล็ก วัย 2 ขวบ ได้เสียชีวิตแล้ว จากสาเหตุจมน้ำ และเพราะกลัวความผิดจึงได้นำร่างเด็กไปฝังไว้ตรงป่าอ้อย ข้างศาลพ่อปู่ พื้นที่ หมู่ 2 ต.คลองข่อย อ.โพธาราม ซึ่งใกล้กับที่บ้านพักของพี่สะใภ้ ก่อนจะหนีไปอยู่เพชรบูรณ์ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังคุมตัวกลับมาดำเนินคดี

และหลังจากได้คุยโทรศัพท์กับพี่สะใภ้ น.ส.สุรินทร์ ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกู้ภัยฯ ให้มาช่วยขุดหาร่างลูกสาว ตามคำบอกเล่าของพี่สะใภ้ โดยมีชาวบ้านและเจ้าหน้าที่กว่า 50 คน ช่วยกันค้นหา ซึ่งระหว่างนั้นก็ได้วีดีโอคอลคุยกับพี่สะใภ้ เพื่อยืนยันจุดที่ฝัง หลังค้นหานานกว่าชั่วโมง จึงพบจุดที่ฝังร่างลูกสาว แต่ตอนนี้ต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ และพิสูจน์หลักฐานมาร่วมกันขุดนำร่างลูกสาวขึ้นมาจากหลุมฝัง เพื่อพิสูจน์ยืนยันอัตลักษณ์

ขณะที่ น.ส.สุรินทร์ บอกว่า ในช่วงเกิดเหตุวันที่ 17 ตนเองอยู่กรุงเทพฯ ฝันเห็นลูกสาว และหลาน ปั่นจักรยานไปซื้อขนม ทางเข้าบ้านเป็นดิน เป็นป่า เหมือนรถไถเข้าหมู่บ้าน เห็นบ้านหลังใหญ่สวยมาก จนวันนี้รู้ข่าวจากพี่สะใภ้ว่า เขาฝังลูกสาวไว้ตรงนั้น