เจ้าของพร้อมรับ 'ก็อตซิลล่า' คืนสู่อ้อมอก ดูแลในช่วงชีวิตที่เหลือ หลังหมอชี้ลิงอ้วนเพราะโรค ไม่ใช่เพราะเลี้ยง

สังคม

เจ้าของพร้อมรับ 'ก็อตซิลล่า' คืนสู่อ้อมอก ดูแลในช่วงชีวิตที่เหลือ หลังหมอชี้ลิงอ้วนเพราะโรค ไม่ใช่เพราะเลี้ยง

โดย thichaphat_d

19 มิ.ย. 2564

2.8K views

จากกรณีที่เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เข้าตรวจยึด เจ้าก็อตซิลล่า ลิงแสมอ้วนวัยกว่า 3 ปี ที่มีน้ำหนักถึง 22 กก. จากเจ้าของในตลาดย่านมีนบุรี และถูกส่งตัวต่อไปยังโรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่งย่านรามอินทรา เพื่อทำการรักษาด้วยการปรับโภชนาการและออกกำลังกาย


ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะมีกระแสข่าวว่าจากการตรวจร่างกายของเจ้าก็อตซิลล่า เจ้าก็อตซิลล่า มีโรคประจำตัวคือ โรคไทรอยด์ และ Cushing Syndrome คือ ภาวะร่างกายอาจผลิตสเตียรอยด์ ออกมามากกว่าปกติ ทำให้ร่างกายเกิดภาวะอ้วน หน้ากลม รวมทั้งเวลานี้ ยังมีภาวะโรคเบาหวานเข้ามาแทรกอีกด้วย


เมื่อวานนี้ (18 มิ.ย.) ทีมข่าวได้สอบถามกับ สพ.ญ. กมลลักษณ์ วิลาศรี สัตวแพทย์เจ้าของไข้ที่ดูแลเจ้าก็อตซิลล่า อยู่ในขณะนี้ โดย สพ.ญ. กมลลักษณ์ ระบุว่า ตอน แรกทางทีมแพทย์หลังรับตัวเจ้าก็อตซิลล่า ก็มีการวางแผนว่าจะดำเนินการลดน้ำหนักให้ได้อย่างน้อย 5 กิโลกรัมก่อนที่จะดำเนินการเข้าสู่ขั้นตอนเอาไปปรับตัวในกรงขนาดใหญ่ที่มีต้นไม้และเริ่มขั้นตอนการนำลิงตัวอื่นเข้ามาให้ก็อตซิลล่าปรับตัว เพื่อเตรียมความพร้อมในการส่งกลับคืนสู่ป่า แต่ขณะนี้หลังจากมีการรับตัวมาเป็นเวลากว่าสามเดือนซึ่งทางโรงพยาบาลมีการคุมน้ำหนักของเจ้าก็อตซิลล่า


โดยการคุมอาหารรวมถึงการออกกำลังกายที่ทางเจ้าของจะเดินทางมาในช่วงเช้าและช่วงเย็นของทุกวันเพื่อมาช่วยทีมสัตวแพทย์ ดูแลเจ้าก็อตซิลล่า ทั้งการเดินและการว่ายน้ำแต่ปรากฏว่าสามารถลดน้ำหนักได้เพียงสามกิโล จึงมีการตรวจร่างกายซ้ำอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุจนพบว่าก็อตซิลล่า โรคประจำตัวคือ โรคไทรอยด์ และ Cushing Syndrome ซึ่งเป็นโรค ที่เป็นมาตั้งแต่กำเนิด ไม่ใช่เกิดจากการเลี้ยงดูของเจ้าของ


และการป่วยด้วยโรคแบบนี้ จากเอกสารการแพทย์ ทั่วโลกพบว่ามีปรากฏครั้งแรกเมื่อปี 1999 ที่สหรัฐอเมริกา และมาพบที่ไทยในครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง และเป็นครั้งแรกของประเทศ ซึ่งการรักษาต้องใช้การเอาใจใส่ และการเลี้ยงดูป้อนยา อาหาร และตรวจเลือดบ่อยๆ เพื่อตรวจสอบอาการซึ่งจะต้องดูแลพไปตลอดชีวิต ที่คาดว่าอยู่ได้อีก 5-6 ปีต่อจากนี้ ซึ่งไม่มีใครสามารถทำได้นอกจากเจ้าของ ที่เต็มใจเลี้ยงดู ดูแลรักษา และสามารถเข้าถึงตัวก็อตซิลล่าได้ โดยที่ก็อตซิลล่าจะไม่เกิดความเครียดเพิ่มเติม


ดังนั้นเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาล จึงได้มีการจัดทำหนังสือชี้แจงรวมถึงแนบผลการตรวจร่างกายไปให้ทางกรมอุทยานโดยหนังสือมีการระบุความเห็นของทางคณะแพทย์ว่าเห็นควรส่งเจ้าก็อตซิลล่า กลับไปให้เจ้าของดูแลและรักษาตลอดอายุที่เหลืออยู่แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการตอบกลับจากทางกรมอุทยาน จึงยังไม่มีความชัดเจนว่าการดำเนินการต่อจากนี้จะต้องดำเนินการอย่างไร


ในส่วนของการเลี้ยงดูเจ้าก็อตซิลล่าในขณะนี้ แบ่งเป็นสองส่วนคือส่วนของอาหารการกินจะเป็นทางเจ้าของดำเนินการจัดหาและนำมาป้อนให้กับก็อตซิลล่า ด้วยตัวเองของทุกวันส่วนเรื่องที่อยู่การรักษาหรือการตรวจใดๆ เป็นหน้าที่และภาระในการจ่ายของทางโรงพยาบาลที่เต็มใจช่วยเหลือ แต่ก็อยากให้ทางกรมอุทยานมีความชัดเจนว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรเพราะหากพูดถึงความจำเป็นของตัวก็อตซิลล่าก็เชื่อว่าการอยู่กับเจ้าของจะเป็นผลดีมากกว่าการส่งกลับไปอยู่ป่า หรืออยู่ในความดูแลของคนอื่น เพราะก็อตซิลล่าเองจะเกิดความเครียด


ขณะที่ นายมานพ เอ็มสรรค์ และนางรำพึง เอ็มสรรค์ 2 ตายายที่ดูแลก็อตซิลล่า มานานกว่าสี่ปี ระบุว่า ส่วนตัวทางครอบครัวทุกคนคิดถึงก็อตซิลล่าอย่างมาก เมื่อทราบว่าก็อตซิลล่าป่วยด้วยโรคประจำตัวที่มีภาวะทำให้อ้วนกว่าปกติก็ยิ่งเป็นห่วงซึ่ง ก่อนหน้านี้ทางหมอก็ได้มีการชี้แจงเกี่ยวกับอาการของก็อตซิลล่า ซึ่งทางครอบครัวยินดีที่จะเป็นผู้ดูแลเลี้ยงดูและรักษาก็อตซิลล่า ไปตลอดช่วงอายุของก็อตซิลล่า จึงอยากขอทางกรมอุทยานช่วยเห็นใจทั้งตัวก็อตซิลล่า และทางครอบครัวตนที่มีความผูกพันกันอย่างมาก


ขณะที่นายมานพ ยังระบุว่า เมื่อย้อนไปเมื่อครั้งที่ตนเองเจอก็อตซิลล่า ที่ขณะนั้นเข้าใจว่าแม่ของก็อตซิลล่า ถูกรถชนตายที่บริเวณถนนหทัยราษฎร์ ซึ่งตนเองขับผ่านด้วยความสงสารจึงช่วยเหลือเจ้าก็อตซิลล่าไว้ และขณะนั้นได้มีการพยายามติดต่อโดยการโทรศัพท์สอบถามไปยังกรมอุทยานว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไปกับก็อตซิลล่า ซึ่งขณะนั้นได้รับคำตอบว่าให้เลี้ยงดูไปอย่าปล่อยให้ไปกัดใครคิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร


แต่พอมาถึงตอนนี้กลับบอกว่าตนเองไม่สามารถเลี้ยงก็อตซิลล่าได้ เนื่องจากเป็นสัตว์ป่าทั้งๆ ที่ก็อตซิลล่า ก็ใช้ชีวิตร่วมกับตนเองและครอบครัวรวมถึงเดินทางมาขายของ ที่ตลาดมินบุรีทุกวันตลอดระยะเวลา 4 ปี ก็ไม่เคยมีปัญหาไปกัดหรือทำร้ายใคร ทั้งก็อตซิลล่าเองก็เป็นที่รักของคนในตลาดเป็นอย่างดี จึงอยากขอให้เจ้าหน้าที่กรมอุทยานเข้าใจและเห็นใจครอบครัวตน ส่งคืนก็อตซิลล่ามาให้ตนดูแลต่อ


ซึ่งตลอดการสัมภาษณ์และการพูดคุยกับเจ้าของก็อตซิลล่า ทีมข่าวพบว่าประชาชนที่เดินผ่านไปผ่านมามักจะสอบถามนายมานพ และนางรำพึง ถึงเจ้าก็อตซิลล่าว่ากลับมาหรือยัง เพราะทุกคนคิดถึงอยากเล่นด้วย


ชมผ่านยูทูบที่ : https://youtu.be/e6pyZPC4AUs

คุณอาจสนใจ

Related News