เกาหลีใต้เผย อาจต้องมีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ต่างยี่ห้อในเข็ม 2 ให้กับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข 7 แสน 6 หมื่นคน เนื่องจากวัคซีนแอสตราเซเนก้า จากโครงการโคแว็กซ์ที่ส่งมาให้เกาหลีใต้อาจล่าช้า

รัฐบาลเกาหลีใต้ เผยว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่อยู่แนวหน้าในการรับมือโควิดจำนวน 7 แสน 6 หมื่นคน ที่ฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา เข็มแรกไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา จะต้องเปลี่ยนมาฉีดยี่ห้ออื่นในเข็ม 2 เนื่องจากวัคซีนแอสตราเซเนก้า จำนวน 8 แสน 3 หมื่น 5 พันโดส ภายใต้โครงการโคแว็กซ์ขององค์การอนามัยโลก ที่ตามกำหนดการแล้วจะต้องส่งมาให้เกาหลีใต้ภายในเดือนนี้ อาจต้องเลื่อนไปเป็นเดือนหน้า หรือไม่ก็นานกว่านั้น ซึ่งจะไม่ทันกับการฉีดวัคซีนเข็ม 2 ของเจ้าหน้าที่ดังกล่าว รัฐบาลเกาหลีใต้จึงเตรียมแผนว่า อาจต้องฉีดวัคซีนยี่ห้ออื่น ซึ่งอาจจะเป็นไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเท็ค หรือยี่ห้ออื่น ในเข็ม 2 แทน

ทั้งนี้เกาหลีใต้เปิดเผยเมื่อเดือนที่แล้วว่า จะเริ่มทดลองทางคลินิก สำหรับฉีดวัคซีนผสม โดยเข็มแรกเป็นแอสตราเซเนกา และเข็มสองเป็นไฟเซอร์ ซึ่งตอนนี้ทดลองไปแล้วกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข 100 คน และอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า ภูมิคุ้มกันขึ้นหรือไม่ หรือมีผลข้างเคียงหรือไม่

สำหรับเกาหลีใต้ตอนนี้ประชาชนร้อยละ 27 ฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส เกาหลีใต้มีประชากรทั้งหมด 52 ล้านคน

ขณะที่เมื่อวานนี้องค์กรยายุโรป หรือ EMA แถลงว่า ในอดีตที่ผ่านมา การผสม หรือจับคู่วัคซีนต่างยี่ห้อ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ประสบความสำเร็จด้วยดี วัคซีนเกิดประสิทธิภาพ แต่สำหรับโควิด-19 ยังมีหลักฐานที่จำกัด อย่างไรก็ตามจากการศึกษาเบื้องต้นก็พบว่า มีการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน เป็นที่น่าพอใจ และไม่มีปัญหาเฉพาะใดๆ ในเรื่องความปลอดภัย ซึ่งจะมีการเก็บรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม และติดตามอย่างระมัดระวังต่อไป

ทั้งนี้ แคนาดา และสเปน อนุมัติให้ฉีดวัคซีนแบบผสมได้แล้ว หลังเกิดความวิตกกังวลเรื่องลิ่มเลือดอุดตันที่อาจเชื่อมโยงกับวัคซีนแอสตราเซเนกา ส่วนสเปนก็มีการศึกษาในเรื่องนี้แล้ว และได้ทดลองฉีดวัคซีนของไฟเซอร์ ไบโอเอ็นเท็คเข็มสอง กับผู้ที่ฉีดวัคซีนแอสตราเซเนก้า ในเข็มแรก แล้วเช่นกัน ผลปรากฏว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/IQofmA-FP6E