กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงติดตามโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน จ.อุบลฯ

พระราชสำนัก

กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงติดตามโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน จ.อุบลฯ

โดย panwilai_c

17 มิ.ย. 2564

55 views

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงติดตามการดำเนินงานโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริ ในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน พื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ออนไลน์


วันนี้เวลา 08.58 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ ห้องประชุม วังสระปทุม ทรงติดตามการดำเนินงาน โครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชดำริ ของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านท่าแสนคูณ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ออนไลน์) ซึ่งได้ส่งเสริม พัฒนาการเรียนการสอน ควบคู่การฝึกทักษะอาชีพ ในด้านวิชาการจัดกิจกรรมบันได 6 ขั้น ช่วยพัฒนาทักษะการอ่าน ได้แก่ การฝึกอ่านทุกวัน , ฝึกอ่านควบคู่กับการเขียน , ฝึกคัดลายมือ , ฝึกวาดรูปประกอบคำ , นำคำมาแต่งประโยค และเขียนคำตามภาพวาด พร้อมส่งครูเข้าอบรมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เพื่อเพิ่มทักษะการสอน ซึ่งช่วยให้นักเรียนมีพัฒนาการด้านทักษะการอ่านและเขียนดีขึ้น ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้นำสื่อการเรียนรู้ภาษาไทย และคณิตศาสตร์ ไปจัดกิจกรรมให้นักเรียนที่บ้าน เพื่อฝึกทบทวนความรู้ ก่อนเปิดภาคเรียน


ด้านการส่งเสริมทักษะอาชีพ มีเจ้าหน้าที่จากวิทยาลัยสารพัดช่างอุบลราชธานี เข้ามาสอนการทำดอกไม้ประดิษฐ์จากผ้าพื้นเมือง แล้วนำไปวางจำหน่ายที่ศูนย์แสดงสินค้าโอทอปของจังหวัด ช่วยสร้างรายได้เสริมให้กับนักเรียน และดำเนินงานสนองพระราชดำริ ในการอนุรักษ์และสืบทอดวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยพัฒนาลายลูกแก้วลำแพนบนกระด้ง นำไปปรับใช้กับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ รวมทั้งร่วมกับศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอน้ำยืน จัดทำหลักสูตรการจักสานตะกร้าไม้ไผ่ พร้อมต่อยอด ทอบนลายผ้า นำภูมิปัญญาของ 3 ชนเผ่า มาประดิษฐ์เป็น"ลายลำน้ำยืน" ช่วยสร้างมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ทางโรงเรียนได้ขยายองค์ความรู้ ด้านการเกษตร ด้านสุขอนามัยสิ่งแวดล้อม และการทำบัญชีครัวเรือน โดยมีเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตร จังหวัดอุบลราชธานี มาช่วยถ่ายทอดการแปรรูป และถนอมอาหาร อาทิ มะละกอเชื่อม, แหนมเห็ด ถั่วกรอบแก้ว ทำให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง สามารถพึ่งตนเองได้


ในการนี้ ทรงชื่นชมนักเรียนในพระราชานุเคราะห์ ที่ตั้งใจศึกษา มีผลคะแนนดี หากต้องการหนังสือ หรือสื่อการเรียนทางด้านใดเพิ่มเติมให้แจ้งผ่านครู ตชด. เพื่อพระราชทานความช่วยเหลือต่อไป ด้านการฝึกอาชีพ การสานตะกร้าจากไม้ไผ่ มีพระราชดำริว่า ตอนนี้เริ่มหายาก ให้ส่งเสริมหาความรู้เพิ่มเติมจากปราชญ์ชาวบ้าน นอกจากนี้ยังทรงห่วง เรื่องน้ำดื่ม เนื่องจากบางหมู่บ้าน ยังใช้น้ำกระด้าง โดยมีพระราชดำริให้สำรวจชุมชนต่าง ๆ และพิจารณาว่าควรทำอย่างไรให้ประชาชนมีน้ำสะอาดไว้ดื่ม


โอกาสนี้ ได้พระราชทานพระราชดำรัส ให้โรงเรียนและชุมชน ร่วมมือกันพัฒนา ช่วยกันนำวิชา ความรู้ ที่มีอยู่ในโรงเรียนไปขยายสู่ชุมชน ส่วนชุมชนมีความรู้อะไร ก็นำความรู้มาพัฒนาโรงเรียน หากโรงเรียน และชุมชนช่วยกัน ก็จะประคองชีวิตอยู่ได้ และก้าวหน้าต่อไป


จากนั้น เวลา 13.03 น. เสด็จออก ณ วังสระปทุม ทรงติดตามการดำเนินงาน โครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริ ของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านคำสะอาด อำเภอน้ำยืน ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ออนไลน์) ซึ่งเปิดสอนระดับชั้นอนุบาล ถึงประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียน 80 คน โดยดำเนินกิจกรรมควบคู่กับการเรียนการสอนในกลุ่มวิชาสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ อาทิ การแก้ไขปัญหาวิชาภาษาไทย เรื่องการสะกดคำ สำหรับนักเรียนที่อ่าน-เขียนไม่คล่อง มีการสอนเสริมหลังเลิกเรียน และวันหยุดสุดสัปดาห์


นอกจากนี้ โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราชอุบลราชธานี ได้จัดค่ายนักวิทยาศาสตร์ ภาคเรียนละ 1 ครั้ง ภายใต้โครงการโรงเรียนพี่โรงเรียนน้อง เน้นการทดลองและนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน รวมทั้ง จัดค่ายวิชาการติวสอบโอเน็ตแก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เนื่องจากปีการศึกษา 2561 ถึง 2563 กลุ่มสาระวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มีแนวโน้มลดลง


สำหรับกิจกรรมฝึกอาชีพนักเรียน มีวิทยาลัยการอาชีพวาริณชำราบ สอนตัดผมชาย, วิทยาลัยเทคนิคเดชอุดม สอนการซ่อมจักรยาน และวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีอุบลราชธานี สอนการเพาะเห็ดนางฟ้า ส่วนกิจกรรมด้านการเกษตร มีเนื้อสัตว์ อาทิ ไก่ไข่ และปลา เพียงพอต่อการบริโภค ส่วนผัก และถั่วเมล็ดแห้ง มีไม่เพียงพอ จึงมีการปรับพื้นที่แปลงเกษตร ให้เหมาะสมกับการปลูกพืชผักสวนครัว ได้ทุกฤดูกาล รวมทั้งปรับปรุงยกแปลงผักในสูงขึ้น เนื่องจากพื้นที่โรงเรียนฯ มีน้ำท่วมขังในฤดูฝน สำหรับไม้ผลได้ปลูกกล้วย สับปะรด และมะละกอ แล้วนำผลผลิตแปรรูปเป็นกล้วยตาก กล้วยฉาบ จำหน่ายผ่านระบบสหกรณ์


ทั้งนี้ การเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา มีการสลับชั้นมาเรียนในแต่ละวัน และตรวจคัดกรอง ตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด


โอกาสนี้ ได้พระราชทานพระราชดำรัส เรื่อง การดูแลสุขภาพอนามัย ให้พยายามดูแลเรื่องความสะอาด ส่วนบุคคล และสุขาภิบาลโรงเรียน อย่างที่เคยทำ ห้องน้ำห้องสุขา ห้องครัว ดูให้สะอาดเรียบร้อย ส่งเสริมให้นักเรียนล้างมือ รวมถึงเรื่องการใช้หน้ากากอนามัย จะทำให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น เพื่อที่ทุกคนจะได้ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ