จากอุบัติเหตุรถสปอร์ต BMW Z4 ของนายสุรภักดิ์ ภูไชยแสง วัย 50 ขับเปิดประทุนทั้งที่ฝนตกลงจากเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีหญิงสาววัย 18 ปี เป็นคนถือโทรศัพท์ไลฟ์บรรยากาศ ก่อนเสียหลักไปประสานงากับรถยนต์ซูซูกิสวิฟท์ ที่วิ่งมาในฝั่งตรงข้าม

บนทางหลวงหมายเลข 21 สายสระบุรี-หล่มสัก ตำบลห้วยโป่ง อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ มีผู้เสียชีวิตรวม 3 ศพ เป็นหญิงที่มากับเก๋งสวิฟซ์ 2 คน คนขับรถบีเอ็ม 1 คน ส่วนผู้หญิงที่ถือโทรศัพท์ไลฟ์สดบาดเจ็บขาหัก และยังมีแมวอีก 1 ตัว ที่มากับรถซูซูกิสวิฟซ์ปลอดภัย โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา

ล่าสุดนายภูริทัต ภูไชยแสง อายุ 58 ปี พี่ชายของนายสุรภักดิ์ คนขับรถ BMW Z4 เดินทางมาติดต่อขอรับศพน้องชายไปบำเพ็ญกุศล ที่วัดบ้านนาสวรรค์ อำเภอเมืองบึงกาฬ โดยยังไม่ได้คุยกับฝ่ายคู่กรณี ขอดูแลศพน้องชายตัวเองก่อน แต่จะให้การช่วยเหลือแน่นอน

นายภูริทัต เผยว่า เห็นข่าวจากสื่อ ก็ตำหนิฝ่ายผู้หญิงที่ไปกับน้องว่า ทำไมไปไลฟ์แบบนั้น มั่นใจว่าน้องชายไม่ได้ขับรถเร็ว น่าจะขับอยู่ที่ 110 กม./ช.ม. อาจจะเกิดจากถนนลื่น รู้สึกเสียใจ ที่โลกโซเชียลแสดงความเห็นกันผิดๆ และเข้าใจผิดตระกูลของเรา ทั้งที่ยังไม่ทราบความจริงอะไรเลย ความจริงทางบ้านไม่ได้มีฐานะร่ำรวยอะไร ครอบครัวเป็นแค่ข้าราชการบ้านนอก มีชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป

น้องชายเป็นคนโสด มาใช้ชีวิตอยู่กรุงเทพฯ เป็นเหมือนหนุ่มเจ้าสำราญ ทำงานฟรีแลนซ์ และเป็นโปรแกรมเมอร์ เปิดบริษัทเป็นของตัวเอง ชื่อบริษัท วีว่าโซลลูชั่น จำกัด ที่ทำเกี่ยวกับโปรแกรมเมอร์วางระบบให้กับหน่วยงานไฟฟ้า และประปา อยากจะขอโทษสังคม และอยากบอกว่า น้องชายเป็นคนดี ไม่เคยทำให้ครอบครัวผิดหวัง

ด้านแม่ของนายสุรภักดิ์ เผยว่ามีลูกทั้งหมด 5 คน นายสุรภักดิ์เป็นลูกชายคนสุดท้อง พี่น้องคนอื่นรับราชการกันหมด มีเพียงนายสุรภักดิ์เป็นโปรแกรมเมอร์ รายได้สูง เป็นชายโสด ไม่แต่งงาน มักคบหากับพริตตี้ ที่ผ่านมาสูญเงินกับพริตตี้เยอะ ซื้อของแบรนด์เนมให้ ใช้ชีวิตแบบเพลย์บอย สุดท้ายลูกชายก็มาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนี้

ทางฝั่งคู่กรณี น.ส.กรกฎ หิรัญ อายุ 31 ปี คนขับรถเก๋งซูซูกิ และศพ น.ส.วรรณกานต์ วรรณกายนต์ อายุ 29 ปี เพื่อนที่เสียชีวิตด้วย ญาติได้รับศพกลับภูมิลำเนาเพื่อไปทำพิธีบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด

ด้านนายนิติ วรรณกายนต์ อายุ 63 ปี คุณพ่อของ น.ส.วรรณกานต์ หรืออุ้ย ผู้เสียชีวิตในรถซูซูกิสวิฟซ์ เผยว่า ก่อนเกิดเหตุ ตอนเช้าลูกสาวโทรศัพท์มาบอกว่า จะขับรถมาหา ตนจึงได้บอกภรรยาไปหาเก็บผักทำกับข้าว ทำขนมรอลูก ประมาณ 11 โมง โทรหาลูกสาวอีกครั้งทราบว่า ถึงแยกราหุล อำเภอบึงสามพัน จากนั้นอีก 3-4 ชั่วโมง ลูกสาวอีกคนได้โทรมาบอกกับตนว่า อุ้ยประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ตนรู้สึกช็อก ก่อนหน้านี้ไม่มีลางบอกเหตุอะไรมาก่อน ปกติแล้วลูกสาวทำงานอยู่ที่กรุงเทพ ถ้าว่างจะกลับมาหาเป็นประจำ

โดยส่วนตัวตนเชื่อว่าการเกิดอุบัติเหตุนอกจากจะมีฝนตกทำให้ถนนเกิดลื่นแล้ว เจ้าตัวยังค่อนข้างจะเชื่อว่า สาเหตุที่ทำให้รถเสียการควบคุม เนื่องจากสภาพยางของรถยนต์เก๋งสปอร์ต ที่หมดสภาพ เพราะจากการที่ผู้เป็นพ่อ ได้มีโอกาสลองสัมผัสที่หน้ายางแล้ว หน้ายางค่อนข้างมีความแข็ง ไม่อ่อนเหมือนกับยางสภาพพร้อมใช้ ทำให้รถเสียการทรงตัว และทำให้เกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้คงต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้งเสียก่อน ถึงจะทราบถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่แม้จริง อีกครั้ง

นอกจากนี้ ทางญาติผู้ตาย ได้นำเจ้า รูสก้า แมวเพศเมีย ที่อยู่ในรถยนต์เก๋ง ซูซูกิ ขณะประสบเหตุ แต่ไม่ตาย มาร่วมพิธีศพด้วย ส่วน น.ส.กรกฎ หิรัญ หรือโฟน อายุ 31 ปี แฟนของลูกสาว ญาติรับกลับไปบำเพ็ญกุศลที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี

สำหรับนางสาวเมษสวรรค์ อายุ 18 ปี ที่บาดเจ็บขาหัก ล่าสุดรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ โดยแม่ของนางสาวเมษสวรรค์ เผยว่า ลูกสาวเป็นพริตตี้ เพิ่งรู้ข่าวว่าลูกประสบอุบัติเหตุตอนที่มีพยาบาลโทรศัพท์มาบอก ลูกขาหักอยู่ที่โรงพยาบาล ก่อนหน้านี้เห็นลูกสาวเก็บข้าวของออกจากบ้านไป คิดว่าไปเที่ยวกับเพื่อน ส่วนตัวแล้วไม่รู้จักกับผู้ชาย ไม่รู้ว่าเป็นใคร ส่วนที่โลกโซเชียลต่อว่าหาว่าลูกสาวพูดในคลิปว่า “ซิ่งเลยๆ” นั้น อยากจะบอกว่ามันเป็นคนละช่วงกัน อยากให้เข้าใจความรู้สึกของแม่ด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า ด้านชาวโซเชียลยังพากันวิพากษ์วิจารณ์ พร้อมแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้ประสบอุบัติเหตุในครั้งนี้กันอย่างกว้างขวาง ขณะเดียวกันมีการตั้งข้อสังเกตถึงสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุว่านอกจากรถเก๋งสปอร์ตขับซิ่งฝ่าสายฝนโดยขับรถความเร็วปาดซ้ายแซงขวา ตามที่มีผู้นำคลิปจากกล้องหน้ารถที่ขับตามรถเก๋งสปอร์ตมาเผยแพร่แล้ว

ยังมีนายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง อดีตนายอำเภอหนองไผ่ที่แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า “เคยขับรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์บนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์สายสระบุรี-หล่มสัก บ่อยครั้งมากในยามที่มีฝนตก หรือหลังฝนตกไม่นานจะเสี่ยงมาก ถ้าขับฝ่าสายฝนในช่วงเวลากลางคืนจะเสี่ยงมากที่สุด เพราะถนนระบายน้ำไม่ดี มีน้ำท่วมขังตลอดแนวฝั่งริมเกาะกลางถนน ตั้งแต่ช่วง อ.ศรีเทพ ไปจนถึง อ.เมืองเพชรบูรณ์ ถ้าขับเร็วเกิน 100 กม./ชั่วโมง และจับพวงมาลัยไม่แข็งพอ รถอาจจะไถลออกนอกเลนหรืออาจเหินข้ามเกาะกลางถนนได้ ถ้าเป็นรถเก๋ง ซึ่งเบากว่า ยิ่งเสี่ยงมากกว่า และโค้งถนนบางจุดก็ยังไม่ดีพอ ถ้ามีฝนตก หรือเจอโค้งจะต้องขับช้าๆ และระมัดระวังเป็นพิเศษ ถนนเส้นนี้ควรจะต้องปรับปรุงให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยครับ”

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/v6sWSNvz_LE