นายกฯ ปรับแผนเร่งฉีดวัคซีน ปูพรมแบบไม่จำกัดอายุ ชะลอวอล์กอินไว้ก่อน

สังคม

นายกฯ ปรับแผนเร่งฉีดวัคซีน ปูพรมแบบไม่จำกัดอายุ ชะลอวอล์กอินไว้ก่อน

โดย pattraporn_a

18 พ.ค. 2564

125 views

นายกรัฐมนตรี เผยจำเป็นต้องปรับแผนการฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ โดยจะเร่งปูพรมฉีดแบบไม่จำกัดกลุ่มอายุก่อนหรือหลังที่จะได้สิทธิ์ฉีด และเน้นฉีดให้ผู้ที่ลงทะเบียนจองไว้ก่อน เพื่อลดปัญหารวมตัวของประชาชนที่ไปรอฉีด ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงยิ่งขึ้น


พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ว่า รัฐบาลตั้งเป้าระดมฉีดวัคซีนแบบปูพรมให้ประชาชนให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงานที่เป็นกำลังหลัก เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว จึงจะไม่รอให้คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้รับวัคซีนจนครบก่อนอีกแล้ว นอกจากนี้ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงสูงและเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ จำเป็นต้องปูพรมฉีดวัคซีนให้ได้อย่างน้อย 5 ล้านคน หรือ 70% ของประชากร เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ได้ภายในเดือน มิถุนายน ถึง กรกฎาคมนี้


ขณะที่แผนกระจายวัคซีน ออกไปยังพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศผ่าน นั้น ขณะนี้มี 3 ช่องทาง คือผ่านทางระบบหมอพร้อม มีผู้ลงทะเบียนแล้วกว่า 7 ล้าน สำหรับผู้สูงอายุและผู้ป่วยเรื้อรัง ซึ่งช่องทางนี้ จะเปิดให้กลุ่มผู้อายุต่ำกว่า 60 ปีลงทะเบียนได้ในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้


ช่องทางที่สองคือการลงทะเบียนที่จุดบริการฉีดวัคซีน และช่องทางที่สามคือจัดสรรฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเฉพาะ เช่น บุคลากรด่านหน้า ที่มีความจำเป็น ทั้งบุคลากรแพทย์ อสม. ตำรวจ ทหาร เป็นต้น


มีรายงานว่าการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ นายกรัฐมนตรีย้ำว่าจะต้องดำเนินการวัคซีนให้ผู้ลงทะเบียนในระบบก่อนเท่านั้น ไม่ใช่การเปิดฉีดแบบวอล์คอิน หรือการเปิดให้เข้าไปฉีดโดยไม่ต้องจองล่วงหน้า เนื่องจากหากใช้ระบบวอล์คอิน จะเสี่ยงต่อการรวมตัวของกลุ่มคน และหากในจุดๆนั้น มีวัคซีนไม่เพียงพอ จะก่อให้เกิดปัญหาตามมา จึงต้องการเน้นฉีดให้ผู้ลงทะเบียนเป็นหลักก่อน


ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยวันนี้ว่า วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า จะเริ่มทยอยส่งมอบให้ประเทศไทยตามกำหนดในเดือนมิถุนายนนี้ และระบุว่าแม้การฉีดวัคซีน จะเป็นความสมัครใจของผู้รับการฉีด แต่ก็ต้องการเชิญชวนให้ฉีดเพื่อสร้างความปลอดภัยในการป้องกันโรคมากขึ้น


ขณะเดียวกัน สำนักงานประกันสังคม จะเร่งฉีดวัคซีนที่ได้รับจัดสรรมา ให้แรงงานผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ระยะแรก 6 ล้านโดส โดยจัดสรรฉีดเดือนมิถุนายนนี้ 1 ล้าน 5 แสนโดส ในพื้นที่กรุงเทพฯ และในเดือนกรกฎาคมอีก 4 ล้านโดส แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 1 ล้าน 5 แสนโดส  และพื้นที 9 จังหวัดเศรษฐกิจ อีก 2 ล้าน 5 แสนโดส โดยให้สถานประกอบการแจ้งรายชื่อผู้จะฉีด ผ่านแอพพลิเคชั่นหมอพร้อม โดยวันนี้สำนกงานประกันสังคม เชิญโรงพยาบาลในเครือประกันสังคมจำนวน 12 แห่ง ประชุมเพื่อเตรี่ยมพร้อมฉีดวัคซีนให้ผู้ประกันตน ที่คาดว่าจะเริ่มฉีดได้ในเดือนหน้า

คุณอาจสนใจ

Related News