ความแออัดทำโควิดระบาดหนักในเรือนจำ 'สมศักดิ์' ออก 10 มาตรการสกัดเชื้อ พร้อมเรียกร้องสธ.เร่งฉีดวัคซีนจนท.-ผู้ต้องขัง

สังคม

ความแออัดทำโควิดระบาดหนักในเรือนจำ 'สมศักดิ์' ออก 10 มาตรการสกัดเชื้อ พร้อมเรียกร้องสธ.เร่งฉีดวัคซีนจนท.-ผู้ต้องขัง

โดย panwilai_c

17 พ.ค. 2564

39 views

จำนวนผู้ติดเชื้อในเรือนจำทั่วประเทศ ที่ตัวเลขพุ่งสูงมากกว่า 1 หมื่นคน ทำให้วันนี้ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมและอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ตัดสินใจออกมาแถลงชี้แจงสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง โดยยอมรับว่า ความแออัดเป็นอีกหนึ่งปัจจัยของการระบาดในเรือนจำ ล่าสุด ได้ออก 10 มาตรการเชิงรุก แจ้งผู้บัญชาการทุกเรือนจำต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ขณะเดียวกัน ยังเรียกร้องขอให้กระทรวงสาธารณสุข ช่วยจัดหาวัคซีนสำหรับบุคลากรและผู้ต้องขัง โดยย้ำว่า นี่เป็นความจำเป็นเร่งด่วน ที่ต้องทำให้เร็วเพื่อยับยั้งการระบาด


รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ออกมาแถลงอีกครั้ง หลังถูกกระแสสังคมตั้งคำถาม เกิดอะไรขึ้นในเรือนจำ โดยเฉพาะตัวเลขยอดติดเชื้อสะสม ทำสถิติขยับขึ้นไปมากกว่า 1 หมื่นคนแล้ว


ข่าว 3 มิติ รวบรวมตัวเลข จากฐานข้อมูลตามการรายงานของกรมราชทัณฑ์ จากกราฟิกจะเห็นว่า ผู้ติดเชื้อเฉพาะในเรือนจำและสถานที่กักขัง 8 แห่ง ที่ยืนยันพบการระบาด ยอดสะสมล่าสุด มีมากกว่า 1 หมื่นคน ตัวเลขนี้มาจากการตรวจผู้ต้องขัง 24,357 คน คิดเป็น 49 เปอร์เซ็นต์ ที่น่าสนใจก็คือในจำนวนนี้ ยังรอผลตรวจอีก 2,235 คน


เรือนจำที่พบผู้ต้องขังติดเชื้อในอัตราส่วนสูงที่สุด คือ เรือนจำเชียงใหม่ ข่าว 3 มิติ พบว่า ในจำนวนผู้ต้องขัง 6,469 คน ติดเชื้อไปแล้วมากถึง 3,929 คน คิดเป็น 61 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ต้องขังทั้งหมด รองลงมาคือเรือนจำและที่ต้องขังในกรุงเทพฯ ซึ่งมีทั้งหมด 5 แห่ง ตรวจไปแล้ว 14,429 คน มีผู้ติดเชื้อแล้ว 6,749 คน คิดเป็น 47 เปอร์เซ็นต์ หรือเกือบครึ่งของจำนวนผู้ต้องขัง


ราชทัณฑ์ชี้แจงว่า ในจำนวน 8 เรือนจำนี้ มี 3 แห่ง ที่ยังตรวจผู้ต้องขังไม่ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ คือ เรือนจำคลองเปรม เพิ่งตรวจไปได้ประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์, สถานบำบัดพิเศษกลาง ก็ยังตรวจไม่ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ อีกที่คือ เรือนจำ จ.ฉะเชิงเทรา เพิ่งตรวจไปได้ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ และนั่นก็หมายความว่า ยอดสะสมยังมีโอกาสเพิ่มสูงขึ้น จากยอดที่รายงานวันนี


กรมราชทัณฑ์ ยอมรับว่า แม้ระยะหลังจะแก้ไขด้วยการไต่สวนผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เร้นซ์ หรือเลื่อนการไต่สวนไปก่อน แต่ด้วยสภาพความเป็นอยู่ที่แออัด ไม่สามารถแยกกักตัวผู้ต้องขังได้ จึงมีความจำเป็นต้องออก 10 มาตรการเชิงรุก ให้ทุกเรือนจำปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ในจำนวน 10 ข้อ ราชทัณฑ์เน้นย้ำเรื่องเปิดเผยข้อมูล ทุกเรือนจำห้ามปิดบัง และจะต้องรายงานตัวเลขผู้ป่วยทุกวัน รวมถึงมาตรการลดความแออัด และการจัดหาวัคซีน ที่รัฐมนตรียุติธรรม ย้ำว่า เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนที่เคยเสนอขอไปที่กระทรวงสาธารณสุขแล้ว


รัฐมนตรียุติธรรม ยังระบุถึง มาตรการลดความแออัด หนึ่งในนั้นคือ การพักโทษในรูปแบบพิเศษให้กับผู้ถูกคุมขังที่มีอัตราโทษเหลือน้อย โดยจะใช้วิธีใส่กำไลอีเอ็ม และหากประมวลกฎหมายยาเสพติดที่ปรับอัตราโทษ ผ่านขั้นตอนของรัฐสภา เชื่อว่าจะลดปริมาณของผู้ต้องขังในคดียาเสพติดได้อีกจำนวนมาก


ส่วนที่เชียงใหม่ ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ร่วมแถลงข่าวกรณีที่พบผู้ต้องขังเรือนจำกลางเชียงใหม่ ติดเชื้อโควิดเกือบ 4 พันคน จากจำนวนทั้งหมด 6,469 คน โดยบอกว่า จุดเริ่มต้น คาดว่ามาจากญาติที่มาเยี่ยมผู้ต้องขังในแดนแรกรับ ตั้งแต่เดือน เม.ย. หลังจากนั้นได้ใช้มาตรการ Bubble and Seal กักตัวผู้ติดเชื้อในเรือนจำ ระยะเวลา 28 วัน ต้องระดมบุคลากรทางการแพทย์มาช่วย กว่า 1 เดือน จนสามารถรักษาหายแล้วกว่า 1,000 คน จากผู้ติดเชื้อเกือบ 4,000 คน ท่ามกลางเครื่องคำถาม ทำไมที่ผ่านมาข้อมูลนี้ไม่เคยเปิดเผยต่อต่อสาธารณะ ทั้งที่เริ่มพบการระบาดตั้งแต่เมษายน

คุณอาจสนใจ