ไทยอ่วม! โควิดวันนี้ +2,302 สะสมทะลุแสนราย เปิด 5 คลัสเตอร์ อัตราติดเชื้อพุ่งรายวัน

สังคม

ไทยอ่วม! โควิดวันนี้ +2,302 สะสมทะลุแสนราย เปิด 5 คลัสเตอร์ อัตราติดเชื้อพุ่งรายวัน

โดย pattraporn_a

16 พ.ค. 2564

50 views

วันนี้ (16 พ.ค.) สถานการณ์โควิด-19 ในไทยยังไม่น่าวางใจ ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุแสนคนแล้ว ขณะที่ กทม.ยังน่าเป็นห่วง ผู้ติดเชื้อเพิ่มทุกวันมา 6 วันติดต่อกันแล้ว และคลัสเตอร์แคมป์คนงานยังน่ากังวล


วันนี้ไทยติดเชื้อใหม่ 2,302 คน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่ระลอกแรกทะลุหลักแสน คือ 101,447 คน ซึ่งเฉพาะระลอกสาม คือตั้งแต่เดือน เม.ย มีมากถึง 72,584 คน ในจำนวนนี้หายป่วยแล้ว 65,803 คน ยังรักษาอยู่ 35,055 คน โดยอาการหนัก 1,228, ใส่เครื่องช่วยหายใจ 408


และวันนี้เสียชีวิตเพิ่มอีก 24 คน อยู่ในพื้นที่ กทม. มากที่สุด คือ 8 คน มีถึง 3 คนที่เสียชีวิตวันเดียวกับที่ทราบผลว่าติดเชื้อ ศบค.จึงได้เน้นย้ำว่า กลุ่มเสี่ยงว่าหากมีอาการให้รีบไปพบแพทย์ เพราะมีแนวโน้มว่าอาการของโรคจะเปลี่ยนไปเร็วมาก


ทั้งนี้ ในยอดผู้ติดเชื้อวันนี้ยังไม่รวมผู้ป่วยในเรือนจำ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. ระบุว่า วันนี้มีการรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อในเรือนจำมาอีก 1,219 คน ซึ่งจะนำไปรวมกับยอดผู้ติดเชื้อในวันพรุ่งนี้ แต่ถ้ารวมยอดผู้ติดเชื้อในเรือนจำทั้งหมดตอนนี้ จะพบว่า มีมากถึง 5,114 คน


และจากการที่ไทยพบผู้ติดเชื้อในเรือนจำจำนวนมาก ส่งผลให้อันดับการแพร่ระบาดโควิดไทยขยับขึ้นมาเรื่อยๆ จากก่อนหน้านี้เรานิ่งอยู่ในอันดับที่ 99 ของโลกมานาน ทันทีที่พบผู้ติดเชื้อในเรือนจำ อันดับของไทยขยับขึ้นมาเป็นอันดับที่ 95 ในวันที่ 13 พ.ค. และขยับต่อเนื่องมาเรื่อยๆ จนล่าสุดวันนี้มาเป็นอันดับที่ 92


ขณะที่ กทม.ยังเป็นพื้นที่น่ากังวลที่สุด โดยวันนี้ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,218 คน นับเป็นวันที่ 6 ที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นติดต่อกัน โดย กทม.มีความเป็นห่วงมากที่สุดใน 5 คลัสเตอร์ เพราะยังพบอัตรการติดเชื้อเพิ่มขึ้นรายวัน ได้แก่ แคมป์คนงานหลักสี่, แฟลตดินแดง, แคมป์คนงาน เขตวัฒนา, คลองถม วงเวียน 22 เขตป้อมปราบฯ และ ตลาดห้วยขวาง เขตดินแดง


และสำหรับแคมป์คนงานที่หลักสี่ ข้อมูลที่ ศบค.รายงานวันนี้น่าตกใจมาก จากการตรวจคนงาน 559 คน พบติดเชื้อถึง 482 คน คิดเป็น 86.22% ทาง ศบค.จึงได้เน้นย้ำทางแคมป์ต่างๆที่มีอยู่มากถึง 393 แห่งใน กทม.และมีคนงานประมาณ 6 หมื่น ว่าจะต้องมีมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด



สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/AwL_Qs_Xyio



คุณอาจสนใจ

Related News