เบิร์ด-พิทยา ณ ระนอง อดีตนักแสดง นายแบบลูกครึ่งไทย-เยอรมัน ที่โด่งดังสุดขีดในยุค 90 เคยเล่นละครหลายเรื่อง อาทิ วังน้ำวน , ศีรษะมาร ฯลฯ เป็นหนุ่มแพรวสุดฮอต ขวัญใจสาวๆในยุคนั้น

แต่ทุกวันนี้ต้องผันตัวมายึดอาชีพขับแกร็บฟู้ดส่งอาหารที่เชียงใหม่ หลังจากที่ธุรกิจรับสอนศิลปะและทำงานบริษัททัวร์ รวมทั้งการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งขายกาแฟสมุนไพร ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับบำรุงผิว และอาหารเสริม ได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นกัน โดยผู้ที่พบเห็นต่างรู้สึกประหลาดใจที่เห็นอดีตนักแสดงและนายแบบชื่อดัง ทำงานนี้ พร้อมกับชื่นชมในความอดทนดิ้นรนสู้ชีวิต

จากการพูดคุยสอบถาม เบิร์ด-พิทยา ณ ระนอง ในวัย 50 ปี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ส่งผลกระทบต่ออาชีพและการทำมาหากินของตัวเองอย่างมาก จนกระทั่งการระบาดครั้งล่าสุดที่กระทบอย่างหนักทำให้แทบไม่มีรายได้ จึงตัดสินใจทำงานแกร็บฟู้ดเพื่อยึดเป็นอาชีพหารายได้เลี้ยงชีพ ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ โดยลงทุนซื้อรถจักรยานยนต์ด้วยเงินสดราคาประมาณ 40,000 บาท ด้วยเงินเก็บที่เหลืออยู่ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือทำมาหากิน

ทั้งนี้ เพิ่งเริ่มออกรับงานได้ 5 วัน ออกรับงานตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น. ในย่านถนนเชียงใหม่-หางดง พื้นที่อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ใกล้ที่พักที่ของตัวเองอาศัยอยู่บ้านพี่ชาย ซึ่งตัวเองยังถือว่าเป็นมือใหม่ของงานนี้ ทำให้ยังมีรายได้ไม่มากนักตกวันละ 200-300 บาทเท่านั้น โดยยังไม่หักค่าน้ำมันและค่ากิน แต่ก็เข้าใจดีว่าเป็นธรรมดาของการเริ่มต้นและตั้งใจจะทำงานนี้อย่างเต็มที่ต่อไป เพราะถือว่าเป็นงานหารายได้เลี้ยงชีพ

เบิร์ด พิทยา บอกด้วยว่า ไม่ได้รู้สึกอายที่ต้องทำงานนี้ เพราะเป็นงานสุจริตและเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ อีกทั้งเป็นงานที่ตัวเองชอบอยู่แล้ว ทั้งการได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปตามที่ต่างๆ และการได้ทำงานบริการ

โดยตัวเองไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นนักแสดงหรือนายแบบแต่อย่างใด เพราะไม่ได้ทำงานนั้น มาประมาณ 25 ปีแล้ว ซึ่งช่วงแรกที่มาเริ่มทำงานนี้ กลุ่มเพื่อนร่วมอาชีพไม่ทราบว่าตัวเองเคยเป็นอดีตนักแสดง นายแบบมาก่อน แต่เพื่อนๆ ร่วมอาชีพก็คอยให้คำแนะนำต่างๆ อย่างดี จนกระทั่งเริ่มมีข่าวออกไป หลายคนจึงได้มาสอบถาม

ส่วนลูกค้าที่ใช้บริการกับตัวนั้น ที่ผ่านมายังไม่มีรายใดทราบว่าเป็นตัวเอง ขณะที่เพื่อนฝูงในวงการบันเทิงหลายรายที่ทราบข่าวก็ได้ส่งข้อความมาให้กำลังใจ สำหรับโอกาสในการหวนรับงานในวงการบันเทิงนั้น หากได้รับโอกาสคงไม่ปฏิเสธ

แต่เบื้องต้นยังไม่มีใครติดต่อ และตัวเองก็คงตั้งใจทำงานตรงนี้ให้ดีที่สุดก่อนเป็นสำคัญ พร้อมทั้งอยากให้กำลังใจทุกคนที่อาจกำลังเผชิญปัญหาในช่วงสถานการณ์นี้ว่า อย่าท้อถอยและลุกขึ้นสู้ แล้วทุกอย่างจะต้องดีขึ้น รวมทั้งอย่าคิดว่าตัวเองลำบากที่สุดเพราะยังมีอีกหลายคนที่ลำบากกว่าเรา

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/BSqgUvU45Qg