นาย เด่นภูมิ หรือ โจอี้ ผู้ต้องหาปลอมเป็นโมเดลลิ่งหลอกพริตตี้สาวมาข่มขืน ชิงทรัพย์ ยังยืนกรานปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ แม้จะมีผู้เสียหายชี้ตัวยืนยันได้อย่างถูกต้องก็ตาม ด้านนักวิชาการชี้ ผู้ต้องหาร้อยละ 30 มักกลับมาก่อเหตุซ้ำ

นาย เด่นภูมิ วัฒนโชติภิญโญ ถูกควบคุมตัวมาส่งที่ สน.บางขุนเทียนทันที หลังแถลงข่าวที่กองปราบปรามเสร็จ และก็ถูกพริตตี้ที่ตกเป็นเหยื่อและญาติรุมประชาทัณฑ์ทันที ทั้งมือ ทั้งเท้า ใส่กันแบบไม่ยั้ง ถึงขนาดชุด PPE ที่ใส่มาขาด ตำรวจต้องเข้ามากันอย่างชุลมุน ก่อนจะนำตัวเข้าไปในห้องสอบสวน

เมื่อคืนนี้ผู้กำกับการ สน.ทุ่งสองห้อง บอกว่า นาย เด่นภูมิ มีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด จนต้องแยกห้องขังและมีตำรวจเข้าไปเฝ้าด้านในด้วย แต่จากการสอบปากคำ นาย เด่นภูมิ ยังยืนยันว่าไม่ได้ทำผิด ไม่ขอโทษผู้เสียหาย ปฏิเสธการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และร้องขอทนายในการสอบสวนด้วย และพรุ่งนี้ตำรวจเตรียมนำตัวไปขออำนาจศาลอาญาธนบุรีฝากขัง พร้อมคัดค้านการประกันตัว คาดว่าพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่นและบวรมงคลจะมาอายัดตัวต่อ

พนักงานสอบสวนจึงเชิญตัวผู้เสียหาย 2 คน มาชี้ตัวยืนยันที่ สน.บางขุนเทียน โดยให้ตำรวจสวมเสื้อสีขาวเหมือนกับนายเด่นภูมิ แล้วยืนเรียงหน้ากระดาน 5 คน เพื่อให้ผู้เสียหายมาชี้ตัวทีละคนถึง 3 รอบ โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก็แล้วเสร็จ ซึ่งผู้เสียหายสามารถชี้ยืนยันตัวบุคคลได้ถูกเอง

หนึ่งในผู้เสียหาย ยอมรับว่า ดีใจที่จับคนร้ายได้ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลายเป็นปมในใจ ทุกวันต้องเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง เพราะกลัวว่า นาย เด่นภูมิ จะกลับมาทำร้าย ส่วนที่กล่าวหาว่ายาเสพติดเป็นของเธอ ยืนยันว่าไม่จริง และจะเอาผิดให้ถึงที่สุด

เมื่อเช้าทีมข่าวคุยกับพ่อของนาย เด่นภูมิ ให้ข้อมูลว่า รับนายเด่นภูมิเป็นลูกบุญธรรมตั้งแต่อายุได้ 6 เดือน เลี้ยงดูเป็นอย่างดี ส่งเสียให้เรียนมหาวิทยาลัยจนจบแต่กลับติดยาเสพติด ชอบใช้ความรุนแรงจนต้องไปทำเรื่องขอยกเลิกเป็นพ่อบุญธรรมที่ศาล เมื่อปี 2545 แต่ยังต้องส่งเสียเลี้ยงดูเดือนละกว่า 2 หมื่นบาทจนถึงทุกวันนี้ เคยปรึกษาจิตแพทย์เรื่องพฤติกรรมของลูกชาย ก็ได้คำตอบว่า ปัจจัยหนึ่งมาจากการขาดความอบอุ่นตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา

ทีมข่าวจึงสอบถาม ศ.ดร.นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกรมสุขภาพจิต บอกว่า ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด เนื่องจากมีหลายปัจจัย สามารถแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ พันธุกรรมของพ่อแม่ หรือสมองอาจได้รับการกระทบกระเทือนระหว่างที่มารดาตั้งครรภ์ เช่น พ่อแม่ใช้ความรุนแรงหรือยาเสพติดจะส่งผลต่อลูกในท้องระหว่างตั้งครรภ์ หลังจากนั้นเมื่อโตขึ้นก็จะเกิดความก้าวร้าว นอกจากนี้ยังมีเรื่องการอบรมเลี้ยงดู และปัจจัยสิ่งแวดล้อมอีกหลายอย่าง

สอดคล้องกับความเห็นของ รศ.พันตำรวจโท ดร. กฤษณพงษ์ พูตระกูล ผู้ช่วยอธิการบดีและประธานกรรมการ คณะอาชญาวิทยาฯ มหาวิทยาลัย รังสิต ระบุว่าสาเหตุที่จะทำให้คน คนหนึ่งมีพฤติกรรมที่รุนแรง หรือพฤติกรรมก่อเหตุกระทำความผิดกับผู้อื่นมีหลายปัจจัย แต่ที่น่าสนใจคือ การที่ นายเด่นภูมิ กลับมาก่อเหตุซ้ำๆ เพราะอะไร

จากสถิติผู้ที่พ้นโทษในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีจำนวนผู้พ้นโทษจำนวนกว่า ร้อยละ 30 ที่กลับมาก่อเหตุกระทำความผิดซ้ำอีก เนื่องจากขาดโอกาส จากสังคมหรือสิ่งแวดล้อมชักจูง และหลังจากนี้ควรมีหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือเยียวยาเหยื่อ พร้อมกับให้ความรู้ เพื่อลดการตกเป็นเหยื่อในรูปแบบนี้ในอนาคต