สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด -19 ประจำวันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม 2564 ไทยอยู่ในลำดับที่ 99 ของโลกมีจำนวนผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ 1,630 ราย แบ่งเป็นติดเชื้อภายในประเทศ 1,622 ราย ตัดระบบเฝ้าระวังบริการ 1,321 ราย ในพื้นที่ชุมชน 301 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 8 ราย รักษาตัวอยู่ 29,376 ราย รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 19,948 รายโรงพยาบาลสนาม 9,429 ราย อาการหนัก 1151 รายใส่ท่อช่วยหายใจ 389 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 22 คน รวมเสียชีวิต 421 คน

สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 22 คน แบ่งเป็นชาย 9 รายหญิง 13 คน อายุต่ำสุด 30 ปี สูงสุดอายุ 92 ปี ประกอบด้วยพื้นที่กรุงเทพมหานคร 13 คน , เชียงใหม่ 2 คน ส่วน ปทุมธานี สุพรรณบุรี สมุทรปราการ ระยอง ฉะเชิงเทรา ขอนแก่น มหาสารคาม จังหวัดละ 1 ราย

พบโรคประจำตัวเป็นโรคความดันโลหิตสูงเบาหวาน โรคหัวใจ โรคไขมันในเลือดสูง โรคอ้วน มะเร็ง โรคปอดเรื้อรัง ไตเรื้อรัง และติดเตียง ส่วนใหญ่มีปัจจัยเสี่ยงติดเชื้อภายในครอบครัว เพื่อน สัมผัสผู้ติดเชื้อยืนยัน ไปสถานที่แออัดเช่น ตลาด งานศพ มาจากจังหวัดเสี่ยง เป็นพนักงานขับรถ -ขณะที่คลัสเตอร์สำคัญในพื้นที่กรุงเทพฯ เพิ่มเติม ได้แก่ ซอยเพชรบุรี 5 – 6 เขตราชเทวี และอาคารสำนักงานให้เช่า เขตยานนาวา

มีการรายงานว่าเป็นโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย พบครั้งแรกในประเทศไทย กรณีหญิงไทย อายุ 42 ปีตั้งครรภ์ 25 สัปดาห์มีภูมิลำเนาก่อนหน้านี้อยู่ที่ปากีสถาน เดินทางมาถึงไทยตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน 2554 โดยมีการแวะพักเครื่องดูไบ เดินทางมาพร้อมบุตรชาย 3 คนอายุ 4 ปี 6 ปีและ 8 ปี เมื่อเดินทางมาตามระบบก็ถูกจัดสรรให้อยู่ใน state quarantine โดยอาศัยร่มกับบุตรชายอายุ 4 ขวบ

และวันที่ 26 เมษายนมีการตรวจเชื้อ พบว่าหญิงรายดังกล่าวและบุตรอายุ 4 ปีผลเป็นบวกคือติดเชื้อ และลูกชายอีก 2 คนเป็นผลลบ ยอมรับว่าที่ประชุมเป็นห่วงเรื่องเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ที่อาจมีการพัฒนากลายพันธุ์ในประเทศไทยแต่อย่างไรก็ตามที่ประชุมได้กำชับให้กรมวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์จะต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดสูงสุด

ด้านกระทรวงการต่างประเทศ แจ้งว่าจะระงับการออกซีโออีให้ชาวต่างชาติที่มาจากประเทศปากีสถาน บังกลาเทศ และเนปาล ตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค.2564 โดยจะเป็นมาตรการชั่วคราวในช่วงที่ต้องระวังโควิด-19 สายพันธุ์อินเดียเข้าประเทศ และเป็นมาตรการสำหรับชาวต่างชาติทุกสัญชาติที่มาจาก 3 ประเทศดังกล่าว แต่ไม่ได้ห้ามคนไทย ดังนั้น คนไทยยังสามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/Z9Tkli23TFQ