จากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ของไทยยังสูงต่อเนื่อง และอัตราการฉีดวัคซีนยังอยู่ในระดับต่ำที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ศ.ดร.วีรศักดิ์ กนกนุกูลชัย ราชบัญฑิต และผู้อำนวยการสถาบันนวัตกรรมบูรณาการแห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ได้ใช้ปัจจัยต่างๆ คำนวณทางคณิตศาสตร์ คาดการณ์ว่าไทยจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่หลัก 2,000 คน ไปอีกระยะ และถ้าจะกดอัตราการแพร่ระบาดลงมา ต้องเร่งฉีดวัคซีนให้เร็วกว่าที่ทำอยู่

โดย ศ.ดร.วรศักดิ์ อธิบายว่า ค่าอัตราการแพร่เชื้อในปัจบุบันคือ ผู้ติดเชื้อ 1 คน สามารถแพร่เชื้อได้โดยเฉลี่ย 1.15 คน ดังนั้นเชื้อว่ายอดติดเชื้อราว 2,000 ต่อวันที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ จะยังคงรักษาระดับไปเรื่อยๆ อย่างน้อยอีก 10 วัน ซึ่งหากต้องการกดยอดการแพร่เชื้อ วิธีแรกคือต้องพยายามไม่ให้คนออกมาพบปะกัน ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นวิธีที่เราไม่สามารถอยู่กับมันได้ตลอดไป ดังนั้นจึงต้องมีวิธีที่สองคน การทำให้คนมีภูมิคุ้มกัน โดยควรเน้นเรื่องการฉีดวัคซีน

ทั้งนี้ เมื่อเรียงลำดับการฉีดวัคซีนให้ประชาชนในแต่ละประเทศทั่วโลก พบว่าประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 56 ของโลก และเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศในแถบอาเซียน จะอยู่ในอันดับที่ 5 คือสัดส่วนของประชากรที่ฉีดวัคซีนมีเพียง 0.60% เท่านั้น เนื่องจากในปัจุบันไทยฉีดวัคซีนต่อวันอยู่ที่ประมาณ 36,751 โดสต่อวัน ดังนั้นถ้าต้องการฉีดให้ได้ครอบคลุม 75% ของประเทศ จำเป็นจะต้องใช้เวลามากกว่า 7 ปี

ศ.ดร.วรศักดิ์ ตอบเพิ่มเติมถึงกรณีการจองฉีดวัคซีนผ่านแอปฯ หมอพร้อม ที่กว่าจะเริ่มฉีดวันที่ 7 มิถุนายน 2564 ทำให้เสียเวลาระหว่างนี้ไปร่วมเดือน โดยมองว่าควรจะเร่งฉีดวันละ 4 แสนโดส ซึ่งเชื่อว่าหากระดมกำลังเร่งฉีดได้จริง ประเทศไทยจะพ้นจากวิกฤตโควิดได้ภายในเวลา 4-5 เดือนหลังจากนี้