วันนี้ (8 พ.ค.) สถานการณ์โควิด-19 เป็นอีกวันหนึ่งที่ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศกลับมาพุ่งขึ้น โดยมีผู้ป่วยรายใหม่ 2,419 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,409 คน จากต่างประเทศ 10 คน เสียชีวิตอีก 19 คน

สำหรับผู้เสียชีวิต อายุตั้งแต่ 42-93 ปี อยู่ในกรุงเทพฯ 7 คน และที่ สมุทรปราการ , ปทุมธานี จังหวัดละ 2 คน ส่วนที่ นครสวรรค์ , สมุทรสาคร , กาญจนบุรี , ชลบุรี , นครศรีธรรมราช , สงขลา , นครปฐม , สุรินทร์ จังหวัดละ 1 คน โดยส่วนใหญ่พบว่ามีโรคประจำตัว

ส่วนผู้ติดเชื้อรายใหม่ สูงสุดยังคงเป็นกรุงเทพมหานคร 1,112 คน ตามด้วยนนทบุรี , สมุทรปราการ ,ประจวบคีรีขันธ์ และ ปทุมธานี

ทั้งนี้ แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. รายงาน ว่า ที่ประชุมศบค.ชุดเล็ก ได้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล พบว่าแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จุดที่น่าห่วง คือ 4 คลัสเตอร์ล่าสุดที่อยู่ระหว่างการเฝ้าระวัง คือ ชุมชนวัดโสมนัส เขตป้องปราบศัตรูพ่าย , ชุมชนวัดญวนคลองลำปัก เขตดุสิต , ปากคลองตลาด เขตพระนคร และ ศูนย์การค้าเขตพระนคร เขตพระนคร

ขณะที่เขตที่พบการติดเชื้อมากที่สุด เป็นคลองเตย , ราชเทวี , ปทุมวัน , บางกะปิ , จตุจักร , ดอนเมือง , ลาดพร้าว , ดุสิต , ยานนาวา และ วังทองหลาง ปัญหาของชุมชนแออัดในบางเขต ที่เสี่ยงเพราะต้องใช้ห้องน้ำร่วมกัน

ส่วนการบริหารเตียงผู้ป่วยสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง คือการครองเตียงของผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองและสีแดง จึงทำให้ต้องเปิดโรงพยาบาลบุศราคัม ที่อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ซึ่งจะมีศักยภาพรองรับผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองได้ในสัปดาห์นี้

ขณะเดียวกันทางกรุงเทพมหานคร ประกาศเตรียมขยายจุดให้บริการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนอกโรงพยายบาลเป็น 25 แห่งจากเดิม 15 แห่ง ดีเดย์เปิดจุดแรกที่เซ็นทรัลลาดพร้าวในวันที่ 12 พฤษภาคมนี้ และคาดว่าทั้งหมดจะฉีดวัคซีนได้ 38,000-50,000 คนต่อวัน กลุ่มแรกจะเป็นเจ้าหน้าที่ด่านหน้า กลุ่มอาชีพเสี่ยง และจากนั้นจะขยายเปิดเพิ่มในจุดอื่นต่อไป